ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการทุบขายเงินเยนและทุ่มซื้อดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.56% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4101 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4325 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 1.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6255 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6431 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินเยนดิ่งลง 2.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 79.080 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 77.040 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.25% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7674 ฟรังค์ จากระดับ 0.7693 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 2.76% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียที่ระดับ 1.0467 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0764 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 3.31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8641 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เงินเยนร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายสกุลเงินเยนและทุ่มซื้อดอลลาร์เมื่อวานนี้ เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในเวลานี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ตัดสินใจเพิ่มโครงการซื้อทรัพย์สินเป็น 50 ล้านล้านเยน หรือ 6.30 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิม 40 ล้านเยนในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
การแทรกแซงตลาดครั้งล่าสุดของญี่ปุ่นถือเป็นการเข้าแทรกแซงครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนกำลังสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยเทอิโคคุ ดาต้าแบงก์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยรายใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 มีบริษัทญี่ปุ่นล้มละลายไปแล้ว 24 แห่ง เนื่องจากผลกระทบของเงินเยนแข็งค่า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 20% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย 1.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามเข้าสู่ประเทศอื่นๆ ที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ พร้อมกับประกาศโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในยูโรโซนอีกครั้ง หลังจากที่ยุติโครงการดังกล่าวไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว โดยอีซีบีมีเป้าหมายที่จะยับยั้งการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป
ค่าเงินฟรังค์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธเนื่องจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดการแข็งค่าสกุลเงินฟรังค์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 400,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 405,000 ราย
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้น 85,000 - 90,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ 9.2%