นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อช่วงค่ำวานนี้ว่า อีซีบีจะดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในยูโรโซนอีกครั้ง หลังจากที่ได้ยุติโครงการดังกล่าวไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป
นอกจากนี้ อีซีบียังประกาศขยายโครงการสินเชื่อระยะสั้นให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนออกไปอีก 6 เดือน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเสริมสร้างสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ทริเชต์กล่าวว่า อีซีบีจะจับตาภาวะเงินเฟ้อในยูโรโซนอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของอีซีบีมีขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ในตลาดที่ว่า อีซีบีได้เข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรในช่วงก่อนหน้านี้ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลยูโรโซนเป็นจำนวนมาก แต่นายทริเชต์ยืนยันว่า หากมีการแทรกแซงตลาด อีซีบีก็จะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะชน พร้อมกับกล่าวว่า ไม่ใช่คณะกรรมการบริหารทุกคนของอีซีบีที่จะเห็นด้วยกับโครงการซื้อพันธบัตร
อย่างไรก็ตาม อีซีบีไม่ได้เปิดเผยแผนการเข้าซื้อพันธบัตรอิตาลีและสเปน แม้ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของอิตาลีอยู่ในระดับสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของเยอรมนีก็ตาม โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีพุ่งขึ้นแตะระดับ 6.26% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542
ส่วนในเรื่องของเงินเฟ้อนั้น ทริเชต์กล่าว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนที่พุ่งขึ้นถึง 2.5% ในเดือนก.ค.ทำให้อีซีบีต้องจับตาสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแถลงโครงการซื้อพันธบัตรของอีซีบีมีขึ้นหลังจากคณะกรรมการบริหารของอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค.ปีนี้