รมว.คลังฮ่องกงชี้เศรษฐกิจฮ่องกงยังมั่นคงแม้ S&P ลดเครดิตสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Monday August 8, 2011 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจอห์น ซัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง กล่าวว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ จะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ และเศรษฐกิจของฮ่องกง

นายซังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ AAA สู่ AA+ โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ถือเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยการลดอันดับความน่าเชื่อถือจะทำให้ตลาดผันผวน แต่อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์จะยังคงเป็นเงินสกุลหลักของโลก

นายซังระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียมีเสถียรภาพที่ดี ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจฮ่องกง พร้อมกับย้ำว่า พื้นฐานเศรษฐกิจฮ่องกงยังคงแข็งแกร่งจากความผันผวนภายนอก ผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารและสถาบันการเงินที่มีการจัดทำขึ้นเป็นประจำบ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมการเงินมีความสามารถในการรับมือกับความผันผวนของตลาดได้

ต่อคำถามที่ว่าจะเกิดวิกฤติการเงินครั้งใหม่หรือไม่ นายซังกล่าวว่า เขาจะจับตาดูการรับมือของประเทศอื่นๆ พร้อมกับเสริมว่า หลายประเทศในยุโรปกำลังวางแผนรับมือฉุกเฉิน

นายซางกล่าวว่า ปัจจุบันฮ่องกงมีโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งในฐานะศูนย์กลางเงินหยวน

ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงจะติดตามความเคลื่อนไหวในทั่วโลกและในตลาดภายในประเทศเพื่อรับประกันความราบรื่นในการดำเนินงาน โดยนายซังแนะนำนักลงทุนรายย่อยให้ระวังความผันผวนในตลาด

นายนอร์แมน ที.แอล. ชาน ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง กล่าวถึงการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐว่า จะไม่มีผลกระทบต่อฐานะของดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศและตลาดการเงิน

การปรับลดอันดับยังสะท้อนให้เห็นถึงความวิตกของตลาดที่มีต่อการตัดสินใจและความสามารถของรัฐบาลสหรัฐในการปรับปรุงงบประมาณในระยะกลางและระยะยาว นายชานระบุ

นอกจากนี้ นายชานคาดว่า ตลาดจะยังคงผันผวนอย่างมากต่อไป เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเงินที่ซบเซาในปัจจุบันในยุโรปและสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ในยุโรปและสหรัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม เพื่อผ่อนคลายความวิตกกังวลของตลาดลงด้วยการวางแผนงบประมาณอย่างกล้าหาญและใช้มาตรการอื่นๆที่เหมาะสม พร้อมกับเสริมว่า ฮ่องกงควรเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความยืดหยุ่นของระบบการเงินมากขึ้น เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ