World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2554

ข่าวต่างประเทศ Monday August 8, 2011 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐมนตรีคลังจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี7) ประกาศเจตนารมย์ในการยกระดับความร่วมมือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านเสถียรภาพในตลาดเงินทั่วโลก ในขณะที่สหรัฐและยุโรปเผชิญปัญหาหนี้สิน

-- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า อีซีบีจะเดินหน้าแผนการเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลในยูโรโซนในตลาดรอง โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมวิกฤตหนี้สิน

-- นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ที่ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐว่า เป็นการตัดสินใจที่ขาดการพิจารณาข้อมูลพื้นฐานและความคืบหน้าเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ

-- -รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 50.2% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 5.269 แสนล้านเยน

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขานรับการให้คำมั่นของกลุ่มผู้นำยุโรปและกลุ่ม G7 ที่ให้คำมั่นว่า จะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินทั่วโลก

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เผยยอดการปล่อยกู้รายวันโดยเฉลี่ยของธนาคารญี่ปุ่นในเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 0.6% จากปีก่อนหน้านี้มาอยู่ที่ 392.75 ล้านล้านเยน ทำสถิติลดลงเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกัน

-- นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยให้สัญญาไว้ หลังจากที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่สำคัญ 2 ฉบับ

-- จีนได้อพยพประชาชนกว่า 1 แสนคนในมณฑลชานตง ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศในวันนี้ ขณะที่พายุโซนร้อนหมุ่ยฟ้ายังคงเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งตะวันออกของจีน

-- รัฐมนตรีกระทรวงคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศในกลุ่ม G20 ให้คำมั่นในวันนี้ว่า จะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อแก้วิกฤตหนี้ยุโรปและคลี่คลายความวิตกกังวลที่มีต่อเศรษฐกิจโลก

-- จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1,081 แห่งในเดือนกรกฎาคม ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายบริษัทที่กำลังถูกกดดันให้เข้าสู่ภาวะล้มละลาย อันเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

-- ธนาคารกลางอินเดียออกแถลงการณ์ระบุว่า การสร้างความเชื่อมั่นว่าตลาดในประเทศมีสภาพคล่องของเงินรูปีและสกุลเงินต่างประเทศที่เพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้อัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนมากจนเกินไปนั้น ถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกของธนาคารกลางอินเดียในอนาคตอันใกล้นี้

-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียสามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คิดเป็นมูลค่า 1.6832 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ