ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในกลุ่มพนักงานที่มีลักษณะงานอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่น (Economy Watchers) ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นอีกสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มพนักงานดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมถึงเสมียนร้านค้า ผู้จัดการโรงแรม และพนักงานขับรถแท็กซี่ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 52.6 จุด จากระดับ 49.6 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขเดือนก.ค.ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2549 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ระดับ 54.6 จุด
ทั้งนี้ ตัวเลขที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 ชี้ให้เห็นว่า จำนวนผู้ที่มองในมุมบวกมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองในมุมลบ
กลุ่มพนักงานเหล่านี้มองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ภายใต้ผลกระทบของเหตุภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มี.ค. อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มการประเมินพื้นฐานจากผลสำรวจเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ระบุว่า เศรษฐกิจใกล้ที่จะฟื้นตัว
โดย 3 องค์ประกอบสำคัญของดัชนีได้แก่ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน กิจกรรมของบริษัท และการจ้างงานของบริษัท ล้วนปรับตัวขึ้น
ผู้ตอบแบบสอบถามหลายรายเน้นย้ำถึงสัญญาณของการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสันทนาการและความบันเทิงภายหลังเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังเห็นว่าการผลิตฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ภาวะชะงักงันในส่วนของอุปทานชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ที่สำคัญๆได้คลี่คลายลง และจำนวนตำแหน่งงานในภาคธุรกิจต่างๆก็ขยายตัวขึ้น เช่น ภาคธุรกิจก่อสร้างและขนส่ง