ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่สหรัฐถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์และเข้าซื้อสกุลเงินที่มีความปลอดภัยเช่นสกุลเงินฟรังค์และเยน ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรของสเปนและอิตาลี
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.87% เมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 77.700 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 78.380 เยน และร่วงลง 1.62% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7547 ฟรังค์ จากระดับ 0.7671 เยน
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.48% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4211 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4280 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.29% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6343 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6390 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 2.1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0221 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0440 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 2.18% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่ระดับ 0.8248 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8432 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ปลอดภัยเช่นสกุลเงินฟรังค์และเยน เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่และอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากเอสแอนด์พีปรับลดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐลง 1 ขั้นจากระดับ AAA สู่ระดับ AA+ พร้อมให้แนวโน้มเชิงลบ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สหรัฐถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยเอสแอนด์พีมองว่าแผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังที่สภาคองเกรสและคณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐเห็นชอบไปในสัปดาห์นี้นั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้สถานการณ์หนี้สาธารณะของประเทศมีเสถียรภาพได้
การตัดสินใจลดอันดับเครดิตสหรัฐครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา S&P ได้ปรับลดแนวโน้มตราสารหนี้ระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐลงมาอยู่ที่เชิงลบเป็นครั้งแรก จากระดับมีเสถียรภาพ โดยระบุถึงความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ
ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป จากธนาคารกลางยุโรปประกาศว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรของสเปนและอิตาลี เพื่อช่วยให้ประเทศทั้งสองสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐขยายตัวเพียง 1.3% ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 1.8%
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 100.6 จุด ในเดือนก.ค. จากระดับ 100.9 ด ในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 4% จากปีที่ผ่านมา
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆในสัปดาห์นี้ รวมถึงประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานประจำไตรมาส 2,ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมิ.ย., งบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐประจำเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.