นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการสมาคมตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังนี้คาดว่ายังคงอ่อนแอและชะลอตัว โดยเฉพาะผลสืบเนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ต้องมีมาตรการรัดเข็มขัด รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะนี้คงต้องรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ว่ามีประเด็นใหม่ออกมาหรือไม่ รวมถึงการทยอยประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในช่วงนี้จะออกมาอย่างไร ทั้งนี้ มองว่าสหรัฐได้ดำเนินนโยบายการเงินในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่แล้ว ขณะที่นโยบายการคลังยังมีข้อจำกัด ก็คงต้องติดตามแผนการแก้ปัญหาหนี้ของสหรัฐฯ ในระยะต่อไป
นายบัณฑิต กล่าวว่า หลังจากสหรัฐฯ ถูกปรับลดเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวลง พบว่าตลาดการเงินได้มีการตอบรับอย่างมากแล้ว ดังนั้น จึงมองว่าค่าเงินดอลลาร์ไม่น่าจะปรับตัวลงไปมากกว่านี้แล้ว การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐก็เริ่มมีการปรับพอร์ตหลังจากถูกปรับลดอันดับเครดิต
ส่วนผลกระทบที่มีต่อไทยคงต้องติดตามว่าจะมีต่อการส่งออกมากน้อยเพียงใด แต่ในแง่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยมองว่ายังน่าจะเติบโตต่อไปได้ และยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ เงินทุนที่จะไหลเข้ามาในเอเชียมากขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นด้านบวกต่อเศรษฐกิจ แต่การที่มีเงินไหลเข้ามากและเร็วเกินไป อาจจะสร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจในระยะยาวได้
"ในส่วนของไทยเอง ต้องรอดูผลการตัดสินใจในระดับนโยบายของสหรัฐ ซึ่งหากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อไทยและเอเชีย เพราะหากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวดีขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อการส่งออก" นายบัณฑิต กล่าว