ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) พร้อมประกาศว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556 นอกจากนี้ เฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจลงจากที่ประเมินไว้ในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย. โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าที่คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีคาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลง และการลงทุนนอกภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงอ่อนแอ ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงซบเซาเช่นกัน นอกจากนี้ สภาวะในตลาดแรงงานย่ำแย่ลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านอุปกรณ์สำนักงานและซอฟแวร์ในภาคเอกชนยังคงมีการขยายตัว"
ด้านเงินเฟ้อนั้น เฟดกล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง และคาดว่าการคาดการเงินเฟ้อในระยะยาวจะยังคงมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันเฟดคาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า อันเนื่องมาจากหลายปัจจัย รวมถึงผลกระทบของราคาอาหารและพลังงานที่มีต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค และห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีมองว่า สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ในระดับต่ำและอัตราเงินเฟ้อในระยะกลางที่ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้นั้น จะช่วยให้คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษได้ไปจนถึงกลางปี 2556
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นอกเหนือจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำแล้ว เฟดยังส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหากจำเป็น โดยแถลงการณ์ของเฟดระบุว่า "คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีได้หารือกันเกี่ยวกับเครื่องมือด้านนโยบายที่มีอยู่ เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น โดยเฟดจะยังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจากข้อมูลที่ได้รับ และเฟดพร้อมที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ หากจำเป็น"