ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) โดยดอลลาร์ดิ่งลงกว่า 5% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิส หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกจนถึงกลางปี 2556 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าลดลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.37% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4368 ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4174 ยูโร และอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6315 ปอนด์ จากระดับ 1.6313 ปอนด์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังดิ่งลง 0.90% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.030 เยน จากระดับ 77.730 เยน และทรุดฮวบลง 4.62% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7200 ฟรังค์ จากระดับ 0.7549 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.38% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0345 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0204 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 2.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8366 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8201 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะเงินฟรังค์สวิส หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) พร้อมประกาศว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556
เฟดได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมที่สะท้อนถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยกล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ สภาวะในตลาดแรงงานย่ำแย่ลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นอกเหนือจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำแล้ว เฟดยังส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหากจำเป็น
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีหดตัวลง 1.2% ในเดือนมิถุนายน จากเดือนพฤษภาคมที่ขยายตัว 4.4% ส่วนยอดนำเข้าขยับขึ้น 0.3% จากเดือนพฤษภาคมที่ขยายตัว 3.8% กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตลดลง 0.3% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ร่วงลง 0.6% ในไตรมาสแรก และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 2.2% ในไตรมาส 2 หลังเพิ่มขึ้น 4.8% ในไตรมาสแรก
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมิ.ย., งบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐประจำเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.