นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล กล่าวอำลาตำแหน่ง รมว.พลังงาน เพื่อเตรียมไปรับตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมในรัฐบาลชุดใหม่ว่า ไม่เป็นห่วงการทำงานของ รมว.พลังงานคนใหม่ เพราะเชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านพลังงานเป็นอย่างดี และคงจะมาสานต่อนโยบายการปรับโครงสร้างราคาพลังงานและส่งเสริมนโยบายพลังงานทดแทนมากขึ้น
ขณะที่นโยบายด้านอุตสาหกรรมนั้น หลังเข้ารับตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมแล้วคงจะต้องรอให้รัฐบาลใหม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการก่อน เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ
ส่วนข้อเสนอที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เตรียมจะเสนอรัฐบาลใหม่ทั้งนโยบายค่าแรง 300 บาท/วัน และยกเลิกการรับภาระค่าไฟฟรี 90 หน่วยแทนผู้ใช้ไฟนั้น นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า พร้อมจะรับฟังทุกข้อเสนอ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
สำหรับนโยบายภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 ที่ยังมีความเห็นต่างระหว่างกระทรวงพลังงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น คงจะต้องมีการหารือกันอย่างรอบคอบอีกครั้งเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
ด้านนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวถึงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(PDP 2011)จะมีการทบทวนหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ รมว.พลังงานคนใหม่ ซึ่งในขณะนี้แหล่งพลังงานของประเทศมีอยู่อย่างจำกัด
ขณะเดียวกันมีการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้ามากถึง 70% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต ดังนั้นโรงไฟฟ้าถ่านหินจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการผลิตไฟฟ้า โดยในแผน PDP ระยะ 20 ปีข้างหน้า มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเป็น 25-30% จากปัจจุบันไม่ถึง 20% ซึ่งโรงไฟฟ้าถ่านหินโรงแรกกำลังการผลิต 700-800 เมกะวัตต์ จะเข้าระบบตามแผนในปี 2562 และถือว่ายังมีเวลาในการทำความเข้าใจกับชุมชน