ส.ผู้ส่งออกข้าวฯขานรับ"กิตติรัตน์"คุมพาณิชย์,ขอพบก่อนสรุปนโยบายรับจำนำ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 11, 2011 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.กอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์รู้สึกพอใจที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เข้ามารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจทางด้านเศรษฐกิจ และมีภาพของความเป็นนักวิชาการอยู่บ้าง คิดว่าน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องการความรู้ความเข้าใจระบบการค้าอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องของข้าวซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ยิ่งต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่ดี

"โอเคนะสำหรับตำแหน่งนี้ที่ได้ท่านกิตติรัตน์ มีความรู้ความสามารถเป็นคนนอก ไม่ใช่คนที่สังคมตั้งคำถาม น่าจะเป็นคนที่เปิดกว้างรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วน ผสมผสาน สามารถประสานประโยชน์กับทุกภาคส่วนได้ดี"น.ส.กอบสุข กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกข้าวมีความกังวลในภาคปฏิบัติของนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนกลับมาใช้นโยบายรับจำนำข้าว แทนการรับประกันราคา จึงต้องการขอเข้าพบเพื่อหารือโดยเร็วก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบาย เพราะหากมีปัญหาที่มีความเห็นตรงกันก็จะได้รีบปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม

"อยากจะหารือท่าน รมว.พาณิชย์ในเร็วๆนี้ ขอหารือก่อนที่จะสรุปนโยบายและแถลงนโยบาย เดี๋ยวจะกลายเป็นถอยหลังไม่ได้ หลักๆคือ นโยบายการจำนำข้าวที่พรรคจะนำมาใช้ จะขอปรึกษาอย่างใกล้ชิดว่ามีแนวนโยบายอย่างไร และเราอาจจะเสนอความคิดเห็นของเราเพื่อให้ท่านพิจารณาว่าแต่ละภาคส่วนมีท่าทีอย่างไร มีข้อคิดเห็นอะไรบ้าง ทั้งโรงสี ข้าวถุง ชาวนา ร้านค้า พ่อค้าข้าวเปลือก" น.ส.กอบสุข กล่าว

สำหรับสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าในขณะนี้ น.ส.กอบสุข กล่าวว่า การเรียกร้องทางการทำให้บาทอ่อนค่าคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากผลกระทบมาจากปัจจัยภายนอกเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐ ผู้ส่งออกก็ควรจะทำใจกับความเสี่ยงนี้ และหาทางป้องกัน จะมีก็เพียงรายเล็กๆที่จะมีปัญหาเพราะการทำประกันความเสี่ยงมีแต่รายกลางรายใหญ่เท่านั้นที่สามารถทำได้ดี รายเล็กๆเดือดร้อนแน่ ขึ้นอยู่กับธนาคารพาณิชย์ว่าจะใจกว้างมาแค่ไหนที่จะให้การสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้นับเป็นครั้งแรกที่ข้าวขาวของเวียดนามแพงกว่าไทย โดยปัจจุบัน ราคาส่งออกข้าวขาวของไทยอยู่ที่ 530 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ราคาข้าวขาวของเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 540 ดอลลาร์/ตัน จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของการส่งออกของข้าวไทยในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่ของเวียดนามจะออกสู่ตลาดในเดือนก ก.ย.นี้

"ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ข้าวของเวียดนามแพงกว่าไทย เป็นเพราะเวลานี้เวียดนามข้าวหมดตลาดแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ไปทำสัญญาขายล่วงหน้าไว้บานเบอะ แต่ไม่มีข้าวส่ง ทำให้ตอนนี้มีการยกเลิกสัญญากันจ้าละหวั่น อาจจะเป็นโอกาสของข้าวไทยได้ในระยะสั้นๆ"น.ส.กอบสุข กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ