ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินฟรังค์ร่วงหนักหลังแบงก์ชาติสวิสแทรกแซงตลาด

ข่าวต่างประเทศ Friday August 12, 2011 07:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินฟรังค์สวิสร่วงลงกว่า 4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่าจะผูกติดเงินฟรังค์กับสกุลเงินยูโร เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลที่ทางการสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงเกินคาด

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 4.94% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7621 ฟรังค์ จากระดับของวันพุธ 0.7262 ฟรังค์ แต่อ่อนตัวลง 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.820 เยน จากระดับ 76.900 เยน

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4172 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6227 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6131 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0324 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0180 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 2.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8295 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8117 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ส.ค.ร่วงลง 7,000 ราย สู่ระดับ 395,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐร่วงลงต่ำกว่าระดับ 400,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังฟื้นตัวขึ้น

ค่าเงินฟรังค์ร่วงลงอย่างหนักหลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่าจะผูกติดสกุลเงินฟรังค์กับสกุลเงินยูโร เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินฟรังค์ โดยเมื่อไม่นานมานี้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการขยายการเบิกเงินเกินบัญชี (overdraft) ให้กับธนาคารพาณิชย์ เป็น 1.20 แสนล้านฟรังค์ จากเดิม 8 หมื่นล้านฟรังค์ เพื่อยับยั้งสกุลเงินฟรังค์ไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% นอกจากนี้ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.ในคืนนี้ด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ