World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday August 15, 2011 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นสองวันติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบสี่เดือน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 125.71 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 11,269.02 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.17 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 1,178.81 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.30 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 2,507.98 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงอีกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่น หุ้น เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,742.6 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันหลังจากพุ่งทำนิวไฮไปเมื่อวันพุธ

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) หลังจากที่เคลื่อนไหวผันผวนอันเนื่องมาจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทั้งบวกและลบ โดยยอดค้าปลีกสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบสี่เดือนถือเป็นสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปีก็ยังคงทำให้แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันรายใหญ่สุดของโลกนั้น ยังคงมืดมน

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย. ปรับตัวลง 34 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 85.38 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบปิดลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 1.73%

-- เงินฟรังค์สวิสยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) จากกระแสคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินฟรังค์ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐและยูโรเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนและข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.93% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.7771 ฟรังค์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.7624 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้น 0.51% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 0.9895 จากระดับ 0.9845 แต่ขยับลง 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.800 เยน จากระดับ 76.830 เยน

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4249 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4241 ดอลลาร์สหรัฐ และพุ่งขึ้น 2.02% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1079 จากระดับ 1.0860 ฟรังค์

ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6271 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6242 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0352 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0348 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8306 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ส.ค.) หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจากข่าวที่ว่าสี่ประเทศในยุโรปได้สั่งห้ามการทำชอร์ตเซลหุ้นธนาคารและสถาบันการเงิน ภายหลังภาคธนาคารของยุโรปเผชิญความผันผวนอย่างหนักตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ดัชนี FTSE 100 ทะยานขึ้น 157.20 จุด หรือ 3.04% ปิดที่ 5,320.03 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ