ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ เตือนว่าราคาอาหารในตลาดโลกที่เคลื่อนไหวเฉียดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามความผันผวนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องนั้นได้ทำให้กลุ่มผู้ยากไร้ในประเทศกำลังพัฒนากำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
รายงาน Food Price Watch ของเวิลด์แบงก์ที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ระบุว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวน 29,000 รายเสียชีวิตในโซมาเลีย และ 600,000 รายในภูมิภาคนี้ยังเผชิญความเสี่ยงต่อวิกฤตการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ซึ่งเป็นกำลังเป็นภัยคุกคามประชาชนกว่า 12 ล้านคน
"ไม่มีที่ไหนมีเผชิญความทุกข์ทรมานจากปัญหาราคาอาหาแพง ความยากจน และความไร้เสถียรภาพไปมากกว่าเขตฮอร์น ออฟ แอฟริกา หรือแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนืออีกแล้ว" นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลกกล่าว
"ธนาคารโลกกำลังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยแก่กลุ่มผู้ยากไร้ในประเทศที่มีความเสี่ยงอย่างประเทศเคนย่าและเอธิโอเปียในระยะเวลาอันใกล้นี้ และให้ความช่วยเหลือในระยะกลางเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่วนความช่วยเหลือระยะยาวก็จำเป็นต้องดำเนินการผ่านการแก้ปัญหาภัยแล้งและใช้วิธีการทางเกษตรที่ชาญฉลาดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ" นายโซลลิคเสริม
เวิลด์แบงก์เผยว่า ทางหน่วยงานกำลังจัดหาเงิน 686 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชน เพิ่มความคุ้มครองทางสังคม และอำนวยความสะดวกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและแก้ปัญหาภัยแล้งสำหรับประชาชนในฮอร์น ออฟ แอฟริกา
ทั้งนี้ ราคาอาหารในตลาดโลกประจำเดือนก.ค.ปีนี้ยังคงสูงกว่าเมื่อปีที่แล้วอยู่มาก โดยภาพรวมของราคายังคงสูงกว่า 33% จากปีก่อนโดยมีราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกข้าวโพด น้ำตาล ข้าวสาลี และน้ำมันถั่วเหลืองที่เป็นสินค้าที่กระตุ้นให้ราคาพุ่งสูงขึ้น รายงาน Food Price Watch ระบุ
ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงกว่า 45% จากเมื่อเดือนก.ค.2553 ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนผลผลิตและราคาปุ๋ย ที่แพงขึ้น 67% จากช่วงเวลาเดียวกัน
"ราคาอาหารที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สต็อกอาหารมีอยู่ในระดับต่ำนั้นบ่งชี้ว่า เรายังอยู่ในสถานการณ์อันตราย ซึ่งเราควรต้องรับมือกับปัญหานี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด"