นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวเตือนรัฐบาลว่า การกำหนดกรอบเงินเฟ้อที่เหมาะสมจะต้องดูตามพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกควบคู่กันไปด้วย
ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่ประเทศไทยต้องดูข้อดีข้อเสียของการขยายกรอบเงินเฟ้อ โดยจะต้องไม่ทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอ หรือทำให้เสถียรภาพทางการเงินด้อยลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสามารถหาจุดสมดุลรวมกันได้
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าภายในปีนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้ง โดยครั้งถัดไปจะขึ้นอีก 0.25% ทำให้ทั้งปีดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ในระดับ 3.75 - 4% ส่วนการที่อัตราดอกเบี่ยเงินกู้ที่ขยับเพิ่มขึ้นคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าอย่างแน่นอน โดยหากดอกเบี้ยเงินกู้ขยับขึ้น 1% จะทำให้ลูกค้าต้องแบกภาระเพิ่ม 7-8% ขณะที่หากดอกเบี้ยเงินกู้ขยับขึ้น 0.25% จะกระทบอัตราการผ่อนชำระให้เพิ่มขึ้นประมาณ 1%
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า ขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมายังขยายตัวได้ดี ดังนั้นรัฐบาลควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยภาครัฐบาลควรเน้นการลงทุนระบบสาธารณูปโภค เพื่อลดต้นทุนกับผู้ประกอบการ