นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีพื้นที่นาข้าวเสียหายมากน้อยแค่ไหน แต่ดูแล้วไม่น่ารุนแรงเท่ากับน้ำท่วมก่อนหน้านี้
"ผมว่าคราวนี้ไม่น่าเสียหายมาก เพราะส่วนใหญ่น้ำมันท่วมแถวพื้นที่ที่อยู่ติดหรือใกล้แหล่งน้ำ ไม่ได้กระจายวงกว้างเท่าไหร่"นายประสิทธิ์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอสถานการณ์คลี่คลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจะได้มีการลงสำรวจความเสียหาย เท่าที่ทราบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็สั่งดูแลเรื่องนี้อยู่
สำหรับปัญหาหรือเรื่องร้องทุกข์ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรชาวนาข้าว คงต้องรอดูความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ครอบคลุมถึงพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาไทยมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจึงมาพิจารณาอีกครั้งว่าเราอยากให้รัฐบาลแก้ไขหรือช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างไร
ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งว่าอยู่ระหว่างรวบรวมและสรุปข้อมูลเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และพืชผลได้รับความเสียหาย เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่ามีลูกค้าเกษตรกรของธนาคารได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ประมาณ 83,593 ครัวเรือน คิดเป็นมูลหนี้ทั้งสิ้น 7 พันล้านบาท
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือคาดว่าจะมีการพักชำระหนี้ทั้งในส่วนเงินต้นและดอกเบี้ยให้เป็นเวลา 3 ปี โดยในส่วนของดอกเบี้ยจะต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ เพื่อจ่ายส่วนชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าว ซึ่งต้องหารือถึงความชัดเจนกันอีกครั้งในการประชุมบอร์ดในปลายเดือน ส.ค.นี้