กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.ร่วงลง 1.5% มาอยู่ที่ระดับ 604,000 ยูนิตต่อปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 613,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเผชิญภาวะซบเซา
โดยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของภาคเอกชนอยู่ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์เมื่อเดือนมิ.ย.2554 อยู่ 1.5% แต่ยังคงสูงกว่าระดับในเดือนก.ค.2553 อยู่ 9.8%
การเริ่มสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 70% ของการก่อสร้างบ้านร่วงลงเกือบ 5% ในเดือนก.ค. ส่วนการเริ่มก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์เพิ่มขึ้น 6.3%
ส่วนการก่อสร้างบ้านของภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาตมีจำนวนลดลง 3.2% จากระดับที่มีการปรับทบทวนในเดือนมิ.ย.แต่เพิ่มขึ้น 3.8% จากเดือนก.ค.2553
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเผชิญภาวะชะลอตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบหลาย 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2550 โดยราคาบ้านที่ร่วงลงอย่างหนักและวิกฤตสินเชื่อที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องยังคงทำให้ผู้ซื้อบ้านบางส่วนขาดสภาพคล่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งภาวะเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวม สำนักข่าวซินหัวรายงาน