นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวถึงภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในเดือนกรกฎาคมว่า มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 19 โครงการ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 6 โครงการ
ลักษณะการพัฒนาในเดือนนี้เป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งหมด มีจำนวนหน่วยขายรวม 2,662 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 9,253 ล้านบาท ซึ่งจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 3,417 หน่วย (เดือนมิถุนายน 2554 มีจำนวน 6,079 หน่วย) หรือลดลงประมาณ 56%
ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้จะแตกต่างจากเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยขายเปิดมากสุดจำนวน 1,120 หน่วย (43%) แซงหน้าอาคารชุด รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 917 หน่วย (34%) ส่วนอันดับ 3 คืออาคารชุด 226 หน่วย (8%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบจำนวนหน่วยขายกับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนเพิ่มขึ้น 591 หน่วย (112%) แต่อาคารชุดกลับลดลง 3,421 หน่วย (-94%) และบ้านเดี่ยวลดลง 693 หน่วย (-43%) แสดงถึงแนวโน้มการชะลอตัวของอาคารชุดที่มีสัดส่วนของหน่วยขายที่เปิดใหม่ลดลงค่อนข้างมากในเดือนนี้
เมื่อพิจารณาถึงมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2554 ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์สนี้ พบว่ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 9,253 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 24,117 ล้านบาท (เดือนมิถุนายน 2554 มีมูลค่า 33,370 ล้านบาท) หรือลดลงประมาณ 72% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะมีลักษณะแตกต่างจากเดือนที่ผ่านมา โดยจะเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับปานกลางเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้พบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 6 บริษัท คือ บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บมจ. เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) บมจ. ศุภาลัย (SPALI) บมจ. แสนสิริ (SIRI) และ บมจ. บางกอกแลนด์ (BLAND) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป