การประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี กับประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ มีการเปิดเผยแผนการประสานนโยบายต่างๆในยูโรโซนให้มีความกระชับมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการลดยอดขาดดุล การกำหนดภาษีธุรกรรมการเงิน และการจัดประชุมสุดยอดปีละสองครั้ง
ผู้นำทั้งสองยังเสนอให้นายเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรป ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการยูโร พร้อมให้คำมั่นว่าจะร่วมกันปกป้องเงินยูโร
แม้ผู้นำทั้งสองจะส่งสัญญาณชัดเจนว่า ความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเดียวโดยปราศจากบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจนั้น ไม่สามารถบรรเทาวิกฤตหนี้สินได้ แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดเท่านั้น เพราะแทบไม่มีการประกาศมาตรการใดที่เป็นรูปธรรม และไม่มีอะไรใหม่ หรือมีประโยชน์
บรรดาเทรดเดอร์ต่างผิดหวังเมื่อผู้นำทั้งสองยืนยันว่ากองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรป (EFSF) ที่มีเงินช่วยเหลือ 4.4 แสนล้านยูโร เพียงพอแล้ว ทั้งยังกล่าวว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการออกพันธบัตรยูโรโซน หรือ "ยูโรบอนด์"
โดยนายซาร์โกซีกล่าวว่าอาจมีการพูดถึงยูโรบอนด์ในช่วงท้ายของกระบวนการประสานนโยบายต่างๆในยูโรโซน แต่จะไม่พูดถึงในตอนเริ่ม ขณะที่นางแมร์เคิลก็กล่าวว่าจะยังไม่มีการพูดถึงยูโรบอนด์ในตอนนี้
การที่เยอรมนีต่อต้านการออกยูโรบอนด์เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยนายโทมัส เมเยอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์แบงก์ กรุ๊ป กล่าวว่า "ยูโรบอนด์จะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของเยอรมนีและประเทศอื่นๆที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนของประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือน้อยกว่าจะลดลง ในระยะสั้นนั้นยูโรบอนด์จะได้รับการต้อนรับจากตลาด แต่ในระยะยาวจะเกิดคำถามเกี่ยวกับความมั่นคงของสหภาพการเงินยุโรป (EMU)"
นายเมเยอร์ตระหนักดีว่ายูโรบอนด์มีความสำคัญ แต่เตือนว่าการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองเป็นเรื่องยาก หากไม่มีการใช้นโยบายประสานทางการเมืองบนพื้นฐานของประชาธิปไตยควบคู่กันไป
ยูโรบอนด์เป็นการก้าวกระโดดไปสู่การประสานนโยบายการเงินของประเทศสมาชิกยูโรโซน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถทำได้ในขั้นตอนเดียว ขณะที่นายวูล์ฟกัง ชูเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับสื่อในเยอรมนีว่า ยูโรบอนด์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหาก 17 ประเทศสมาชิกยูโรโซนยังต่างคนต่างใช้นโยบายงบประมาณของตนเอง
นายโอลิวิเยร์ เบลลี โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวถึงยูโรบอนด์ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า แม้ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสจะไม่หารือเรื่องยูโรบอนด์ "แต่การประชุมครั้งนี้อาจมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมซึ่งจะช่วยให้การบริการจัดการยูโรโซนแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ 17 ประเทศสมาชิยูโรโซนเห็นชอบในการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม"
ด้านนายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายออลลี เรห์น คณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของยุโรป ออกมาขานรับการประชุมระหว่างผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยระบุในแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า การประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองเป็นก้าวหนึ่งของการสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการยูโรโซน
บทวิเคราะห์โดย ฉง ต้าไห่ และ วาเนสซ่า ลิเบอร์สัน จากสำนักข่าวซินหัว