นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็นในที่สาธารณะกรณีที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง มีแนวคิดปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.5-3% แต่จะขอให้หารือร่วมกันก่อน ไม่อย่างนั้นจะหาข้อสรุปร่วมกันยาก โดยยืนยันว่าจะหาข้อสรุปที่ดีที่สุด
“ผมได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับคุณธีระชัยว่าจะนัดหารือร่วมกัน แต่ยังไม่ได้ระบุวันหารือที่ชัดเจน อย่าเพิ่งเป็นห่วงอะไร ซึ่งที่ผ่านมา ไทยได้รับการยอมรับจากต่างประเทศว่าเป็นประเทศที่ดูแลเงินเฟ้อได้ดี"นายประสาร กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายประสาร กล่าวว่า กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ 0.5-3.0% ที่ ธปท.ยึดเป็นหลักการดำเนินนโยบายการเงินในปัจจุบัน ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจ เพราะเป็นกรอบที่ ธปท.และกระทรวงการคลังได้หารือกันอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะเสนอให้ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติเห็นชอบเมื่อปลายปีที่ผ่านมาตามขั้นตอนที่ พ.ร.บ.ธปท. กำหนด
ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการ ธปท. กล่าวว่า กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อระดับปัจจุบันถือว่าเหมาะสมแล้ว เมื่อเทียบกับประเทศที่มีเศรษฐกิจระดับปานกลาง จึงไม่จำเป็นต้องปรับขึ้น เพราะหากตั้งกรอบเงินเฟ้อสูงมากก็จะผันแปรมาก นักลงทุนจะลำบาก แต่หากตั้งกรอบเงินเฟ้อต่ำก็ผันแปรน้อย
อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการ ธปท. คงต้องหารือกับ รมว.คลัง เพื่อนำกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อประจำปี 55 เสนอเข้าที่ประชุม ครม. อยู่แล้วตามกำหนดเวลาพิจารณาในช่วงเดือน ธ.ค.นี้
“ขณะนี้ ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลใหม่จะเอาอะไร ผมเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เป็นเป้าของรัฐบาล ต้องเจรจาต่อรองกัน ถ้าไปกันไม่ได้ก็ขัดแย้ง ถ้าพูดกันรู้เรื่องชอบพื้นฐานวิธีดำเนินการและตกลงตัวเลขกันได้เรื่องก็ง่าย แต่ยืนยันว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่นโยบายการเงินยึดเป็นหลักนั้น ไม่ใช่จะมาเปลี่ยนกันบ่อยๆ ถ้าเปลี่ยนบ่อยๆ ก็ไม่ใช่หลัก เพราะหลักต้องอยู่นิ่งๆ"ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว