นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย(Thai Industries Sentiment Index: TISI) ในเดือนก.ค.54 ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมก.ค.54 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 105.2 จากระดับ 107.4 ในเดือนมิ.ย.54
โดยปัจจัยที่มีผลต่อการปรับลดลงของค่าดัชนี ได้แก่ ความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ, นโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วัน, ราคาพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง และช่วงขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทเป็นอุปสรรคต่อภาคการส่งออก และสภาวะความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทย
อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนียังอยู่ในระดับสูงกว่า 100 แสดงว่าผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยังมีความเชื่อมั่นต่อการประกอบการในระดับที่ดี โดยมีปัจจัยบวกจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 107.4 ปรับลดลงจากระดับ 113.5 ในเดือนมิ.ย.54 เนื่องจากผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่ายอดคำสั่งซื้อโดยรวม, ยอดขายโดยรวม, ปริมาณการผลิต, ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการจะปรับตัวลดลง
นายพยุงศักดิ์ กล่าวถึงข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนนี้ว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างเห็นสอดคล้องกันว่าการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำควรดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ในทางกลับกันควรเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เร่งสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเร่งสร้างความปรองดองในประเทศไทยอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้น