เบี้ยประกันชีวิตรายใหม่เมื่อสิ้นไตรมาส 2/54 ที่ใช้ช่องทางขายผ่านธนาคารได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีสัดส่วนสูงถึง 50.5% ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่รับรวม ขณะที่การขายผ่านตัวแทนมาเป็นอันดับ 2 มีสัดส่วน 41.6% ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่รับรวม
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า การพิจารณาข้อมูลเบี้ยประกันชีวิตจำแนกตามช่องทางการขาย แบ่งออกเป็น 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต (Agency) ผ่านธนาคาร (Bancassurance) ผ่านทางโทรศัพท์หรือไปรษณีย์ (direct marketing) และผ่านช่องทางอื่นๆ (other)
สิ้นไตรมาส 2/54 หากพิจารณาถึงการขยายงานของบริษัท โดยพิจารณาเฉพาะจำนวนเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ ซึ่งหมายถึงเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกรวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว ปรากฎว่ามีทั้งสิ้น 47,270.6 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกัน 11.8%
เบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ที่ขายผ่านธนาคารมีสัดส่วนสูงสุด โดยมีจำนวน 23,886.5 ล้านบาท สัดส่วน 50.5% ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่รับรวม (เติบโตขึ้น 3.5%) ขณะที่เบี้ยประกันชีวิตรายใหม่จากการขายผ่านตัวแทนมากเป็นอันดับสอง จำนวน 19,681.0 ล้านบาท สัดส่วน 41.6% ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่รับรวม (เติบโตขึ้น 20.9%)
ส่วนเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่จากการขายผ่านทางโทรศัพท์หรือไปรษณีย์ มีจำนวน 1,819.0 ล้านบาท สัดส่วน 3.8% ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่รับรวม (เติบโตขึ้น 45.4%) และเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ที่ขายผ่านช่องทางอื่นๆ อีก 1,884.1 ล้านบาท สัดส่วน 4.0% ของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่รับรวม (เติบโตขึ้น 2.8%)
ขณะที่จำนวนเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นไตรมาส 2/54 มีทั้งสิ้น 156,553.8 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันถึง 13.7% เบี้ยประกันชีวิตรับรวมที่ขายผ่านตัวแทนมีสัดส่วนมากที่สุด โดยมีเบี้ยประกันชีวิตทั้งสิ้น 92,262.2 ล้านบาท สัดส่วน 58.9% (เติบโตขึ้น 9.3%) บริษัทที่ขายผ่านตัวแทนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บจ.เอไอเอ บจ.ไทยประกันชีวิต บจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต บมจ.เอเอซีพี และบจ.เมืองไทยประกันชีวิต ตามลำดับ
ส่วนเบี้ยประกันชีวิตรับรวม ที่ขายผ่านธนาคาร สูงตามมาเป็นอันดับที่สอง จำนวน 53,020.5 ล้านบาท สัดส่วน 33.9% (เติบโตขึ้น 21.6%) บริษัทที่ขายผ่านธนาคารสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต บจ.เมืองไทยประกันชีวิต บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บจ.กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต และบจ.ธนชาตประกันชีวิต ตามลำดับ
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ลักษณะการขายประกันชีวิตผ่านตัวแทนและผ่านธนาคารมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว ที่นิยมขายผ่านธนาคารมากกว่า ส่วนช่องทางการขายอื่นๆนั้น ถือเป็นช่องทางทางเลือก ที่บริษัทพยายามพัฒนาให้เกิดช่องทางใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้ข้อมูลเข้าถึงลูกค้า และเข้ากับวิถีชีวิตคนเมือง/คนชนบทที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น การที่บุคลากรฝ่ายขายในแต่ละช่องทาง แข่งขันกันขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในบริษัทตนนอกจากการแข่งขันกับบริษัทอื่นแล้ว ถือเป็นข้อดีที่ช่วยกระตุ้นให้ฝ่ายขายในแต่ละช่องทางดึงศักยภาพของตนออกมา ซึ่งนอกจากจะทำให้แต่ละบริษัทเติบโตแล้ว ภาคธุรกิจก็จะเติบโตในภาพรวมด้วย คนไทยที่ยังไม่มีประกันชีวิตอีกกว่า 70% ทั่วประเทศจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจทำประกันชีวิตเพื่อประกันอนาคตของตนเองและครอบครัวเพิ่มมากขึ้นด้วย ที่สำคัญคือการบริการที่ดีหลังการขายในแต่ละช่องทางจะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น ได้รับความพึงพอใจสูงสุด และแนะนำต่อญาติพี่น้องต่อไป