ดีฟี โจฮันยาห์ โฆษกธนาคารกลางอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นแตะ 5.25 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ของปีนี้ จากระดับ 4.79 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ (portfolio investment) จากต่างประเทศในช่วง 3 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นแตะ 6.28 พันล้านดอลลาร์ จากช่วง 3 เดือนแรกที่ 4.11 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โฆษกธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวต่อไปว่า บรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นช่วยผลักดันเงินทุนจากต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้าสู่การลงทุนโดยตรงมากขึ้น นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2551 - 2552
ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งและการเมืองที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจอินโดนีเซียให้สามารถฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤต และขยายตัวได้ถึง 4.5% ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและอินเดีย ขณะที่ประเทศอื่นๆต้องรับมือกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างหนัก
โฆษกแบงก์ชาติอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า แนวโน้มที่เงินทุนต่างประเทศจะไหลเข้าสู่การลงทุนโดยตรงมากกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์นั้น จะยังคงดำเนินไปจนถึงสิ้นปี
"ปัจจุบัน สัดส่วนของ FDI และการลงทุนในหลักทรัพย์เกือบจะเท่ากัน และอาจจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงสิ้นปี" เขากล่าว