แบงก์เกอร์คาด กนง.ไม่สนรัฐบาลแตะเบรก เดินหน้าขึ้นดบ.0.25% สกัดเงินเฟ้อ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 19, 2011 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแบงก์มีความเห็นสอดคล้องกันประเมินการประชุม กนง.วันที่ 24 ส.ค.ยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 3.50% หลังเงินเฟ้อยังปรับขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากแบงก์ชาติยังคงยึดการดำเนินนโยบายการเงินที่มุ่งดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว แม้ รมว.คลังคนใหม่อดีตลูกหม้อจะออกมาส่งสัญญาณการชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

ทั้งนี้ คาดจนถึงสิ้นปี กนง.ยังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้อีกจนไปที่ 3.75-4% และปี 55 ยังปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มรายได้และกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชน

นายพงศ์พัฒน์ คุโรวาท ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิจัย ธนาคารกรุงเทพ(BBL)เชื่อว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันที่ 24 ส.ค.54 น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จาก 3.25% เป็น 3.50% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังเร่งตัวต่อเนื่อง ตามราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น โดยการคาดการณ์ล่วงหน้าผลจากนโยบายปรับค่าแรงงานขั้นต่ำที่ทำให้ราคาอาหารปรับขึ้นรับไปแล้ว ประกอบกับ ดอกเบี้ยที่แท้จริงยังติดลบ ธปท.ขณะที่ต้องการให้ดอกเบี้ยกลับสู่ภาวะปกติ จึงทำให้ต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไป

ประเมินว่า กนง.น่าจะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3.75-4.0% และอาจปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อยในปี 55 ก่อนจะทรงตัวอีกนาน แต่ขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อและปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก

"ดูแล้ว กนง.น่าจะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ต่ออีก 0.25% แต่ขึ้นอยู่กับว่า กนง.จะเกรงใจรัฐบาลหรือไม่ แต่ตามที่ กนง.ได้ส่งสัญญาณไว้ชัดเจนก่อนหน้านี้ว่าดอกเบี้ยที่แท้จริงยังติดลบ หากต้องการให้กลับมาปกติก็น่าจะปรับขึ้น นอกจากนี้เงินเฟ้อก็ยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น" นายพงศ์พัฒน์ กล่าว

สำหรับนโยบายของรัฐบาลที่เป็นโครงการประชานิยม เช่น นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท มองว่าอาจเป็นการทยอยปรับขึ้นมากกว่าปรับทันทีครั้งเดียว เพราะรัฐบาลคงต้องฟังเสียงผู้ประกอบการด้วย หากดำเนินนโยบายไปแล้ว อาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นการทำตามสัญญาการหาเสียงอาจจะมีผลเสียหายมากกว่าผลดี ดังนั้นหากโครงการใดไม่สามารถทำได้ รัฐบาลคงต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจด้วย

ด้านนางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้จัดการฝ่ายวิจัยการเงินการธนาคาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ให้ความเห็นสอดคล้องว่า กนง.น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 24 ส.ค.54 และจะทยอยปรับขึ้นจนถึงสิ้นปี ดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 3.75-4% โดย ธปท.และกนง.ยังให้น้ำหนักในการดำเนินนโยบายโดยยึดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 0.5-3% ซึ่งเศรษฐกิจในประเทศยังมีแรงส่งให้เติบโตได้ดีต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยภายนอกที่มีความเสี่ยงมากขึ้นก็ตาม

"เชื่อว่า กนง.ยังคงดำเนินนโยบายโดยมองเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว ในขณะที่มุมมองของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง อาจดูการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการให้น้ำหนักกันคนละมุม" นางสาวเกวลิน กล่าว

นางสาวเกวลิน มองเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงบ้าง แต่รัฐบาลก็มีนโยบายลดการนำเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน และยังมีหลายปัจจัยที่กดดันเงินเฟ้อ ทำให้การปรับขึ้นของราคาอาหาร ต้นทุนการผลิตที่แท้จริงเพิ่มขึ้น นโยบายภาครัฐในการเพิ่มรายได้ ที่มีผลต่อการคาดการณ์ระยะข้างหน้า

ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ระดับ 2% และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดีและมีโอกาสที่จะปรับสูงขึ้นใกล้ 3% หรือมากกว่าในช่วงไตรมาส 3-4/54 ขณะที่ทั้งปีคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6% และเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 4% อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่อง ทั้งนโยบายของรัฐบาลที่จะมีผลต่อเงินเฟ้อและปัจจัยเสี่ยงในต่างประเทศ ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ และอาจจะมีผลต่อการส่งออกของไทยได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ