นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกรีซกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ข้อตกลงช่วยเหลือของสหภาพยุโรป (อียู) รอบ 2 สำหรับกรีซ เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการและประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าในสัปดาห์นี้บางประเทศได้เรียกร้องหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ เพื่อแลกกับการจ่ายเงินสมทบในแผนความช่วยเหลือก็ตาม
นายเวนิเซลอสให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุกรีซว่า เขายอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในกรีซในปีนี้รุนแรงกว่าที่คาดไว้ในช่วงแรก อันเป็นผลจากแนวโน้มเชิงลบในภาวะแวดล้อมทั่วโลก
ข้อตกลงที่จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ในช่วงการประชุมสุดยอดอียูในบรัสเซลส์เกี่ยวกับแผนความช่วยเหลือครั้งใหม่สำหรับกรีซ "เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อยูโรโซนโดยรวม" นายเวนิเซลอสย้ำ
แม้กระนั้นก็ตาม เขาตั้งข้อสังเกตว่า ท่าทีของประเทศสมาชิกอียูบางประเทศ ทำให้สถานการณ์เกิดความซับซ้อน
"มีคำถามเกิดขึ้นในแต่ละครั้งที่ยูโรโซนไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจน" เขากล่าว โดยระบุถึงการคัดค้านอย่างหนักของประเทศในอียูบางประเทศในสัปดาห์นี้ต่อข้อตกลงระหว่างกรีซ-ฟินแลนด์เกี่ยวกับหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว กรีซจะจัดหาเงินสดหลายล้านยูโรให้กับฟินแลนด์เพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับการจ่ายเงินสมทบของฟินแลนด์แก่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ที่จะใช้เพื่อสนับสนุนกรีซ
ข้อตกลงทวิภาคีนี้ได้มีการหารือกันในระหว่างการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งนับตั้งแต่นั้น บางประเทศในอียู เริ่มจากออสเตรีย ได้เรียกร้องหลักทรัพย์ค้ำประกันเช่นเดียวกัน
นายเวนิเซลอสย้ำว่า ขึ้นอยู่กับยูโรโซนในการตัดสินประเด็นนี้ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่า การบังคับใช้ข้อตกลงช่วยเหลือของวันที่ 21 ก.ค. ขึ้นอยู่กับกระบวนการรับรองของสภาและรัฐบาลยุโรป