หยู เตอฮุย รองประธานบริษัทไชน่า เพาเวอร์ อินเวสต์เมนท์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของจีน เผยว่า บริษัทมีแผนลงทุน 6 พันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาการผลิตบ๊อกไซต์ในประเทศกินี
นายหยูให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของกินีว่า ไชน่า เพาเวอร์ อินเวสต์เมนท์ จะลงทุนในด้านการผลิตบ๊อกไซต์ในเขตบ็อฟฟาของกินีด้วยวงเงินกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงหลายปีต่อจากนี้
นายหยูคาดว่า โครงการดังกล่าวจะผลิตบ๊อกไซต์ได้สูงถึง 8 ล้านตันต่อปี และสร้างตำแหน่งงานหลายหมื่นตำแหน่ง
-- ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของจีนปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยตลาดที่สำคัญ เช่น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียน (DCE) ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจว (ZCE) และตลาดล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (SHFE) ต่างก็ปรับตัวลดลง ในขณะที่ดัชนี Wenhua CCI ซึ่งเคลื่อนไหวตามราคาในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของจีนและดัชนีผลการดำเนินงานทั่วไปปิดที่ 200.44 จุด ลดลง 0.69%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐถูกจุดปะทุขึ้น หลังจากที่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง โดยราค้าหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกได้ทรุดตัวลงอีกระลอกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่สหรัฐถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูการรายงานยอดขายสินค้าโภคภัณฑ์ของรัฐบาลจีน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐและยุโรปอย่างใกล้ชิด
-- แผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 12 (2554-2558) สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างจีนซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง-ชนบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระบุว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างจีนตั้งเป้าขยายตัวกว่า 15% ในช่วงแผนดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน แผนดังกล่าวมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานต่อหน่วยในการก่อสร้างอาคารลง 10% ในช่วงปี 2554-2558 และสัดส่วนของอาคารที่เป็นโครงสร้างเหล็กจะเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้เหล็กแท่งประเภทสูงกว่า HRB400 จะเติบโต 45% ของปริมาณการใช้เหล็กทั้งหมดในช่วง 5 ปีดังกล่าว
นักวิเคราะห์คาดว่า อุตสาหกรรมโครงสร้างเหล็กจะพัฒนาอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอาคารที่เป็นโครงสร้างเหล็ก
รายงานของบริษัทกั๋วไท่ จวินอัน ซิเคียวริตี้ส์ ระบุว่า "โครงสร้างเหล็กกำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น" พร้อมกับคาดว่าในระหว่างปี 2554-2558 ผลผลิตโครงสร้างเหล็กของจีนอาจแตะที่ 50-65 ล้านตัน ในขณะที่อุตสาหกรรมโครงสร้างเหล็กมีแนวโน้มที่สดใส สำนักข่าวซินหัวรายงาน