(เพิ่มเติม) รมว.พลังงานตั้งเป้าในปี 58 ปล่อยราคาตามกลไกตลาด,ทยอยปรับภาษีสรรพสามิต

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 22, 2011 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน ตั้งเป้าภายในปี 58 จะเป็นปีที่ขีดเส้นตายว่าราคาพลังงานทุกประเภทจะลอยตัว เนื่องจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ACE)จะมีผลบังคับใช้ หากจะมีการอุดหนุนกันอยู่ ประเทศอื่นก็จะเข้ามาซื้อขายพลังงานในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องทำให้ราคาเท่าเทียมกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพิจารณาว่าประชาชนของประเทศมีรายได้เพียงพอที่จะรับภาระการลอยตัวดังกล่าวหรือไม่ ถ้าดำเนินการแล้วมีปัญหาก็อาจจะมีการทบทวน

รมว.พลังงาน คาดว่าจะปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเร็วกว่ากำหนดเดิมในเดือน ธ.ค.54 หลังจากมาตรการยกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากดีเซลจะหมดอายุลงในสิ้นเดือน ก.ย.54 เนื่องจากเห็นแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงเร็วกว่าที่คาด จากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปชะลอตัว และสถานการณ์ความตึงเครียดในลิเบียคลี่คลาย

"น่าจะทยอยปรับขึ้นมากกว่าคงไม่ได้ปรับทีเดียว 5.83 บาท/ลิตร ปีนี้เชื่อว่าราคาตลาดน้ำมันปรับลง ราคาซื้อขายล่วงหน้าก็ไม่ดี แต่ก็ต้องติดตาม ต้องดูระยะใกล้ก่อนพิจารณาต้องหารือกับรองนายกฯ"นายพิชัย กล่าว

สำหรับการยกเลิกการเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล นายพิชัย กล่าวว่า จะดำเนินการทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยที่ปัจจุบันใช้รถจักรยานยนต์ 17 ล้านคน รถยนต์เก่า และรถที่ใช้ในการเกษตร แม้ว่าหลังจากนั้นราคาน้ำมันเบนซิน 91 จะอยู่ที่ 35.24 บาท สูงกว่าราคาแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.54 บาท หรือสูงกว่าเพียง 0.70 บาท/ลิตร และราคาต่ำกว่าราคาแก๊สโซฮออล์ 95 อยู่ที่ 37.04 บาท (ราคาปัจจุบัน)

รัฐบาลจะหาแหล่งเงินจากเงินกู้จากสถาบันการเงิน หรือออกพันธบัตร เพื่อนำเงินไปอุดหนุนราคาก๊าซแอลพีจีและก๊าซเอ็นจีวี อย่างไรก็ดี ย้ำว่า การยกเลิกการเก็บเงินกองทุนน้ำมันดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยหลือประชาชนก่อนในช่วงที่ประชาชนรายได้ไม่สูง และรายจ่ายมาก ส่วนผลกระทบต่อภาคเอกชนรัฐบาลมีแผนจะดำเนินการแล้ว แต่ทั้งหมดขอให้มีการแถลงนโยบายก่อนและจะประกาศรายละเอียดในภายหลัง

นอกจากนั้น รัฐบาลจะทบทวนนโยบายใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วย/เดือน มี่ความเป็นไปได้อาจจะลดจำนวนหน่วยที่ใช้ไฟฟ้าฟรี แต่จะไม่ยกเลิกนโยบายดังกล่าว

พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะผลักดันโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมชายฝั่งอันดามัน-อ่าวไทย (แลนด์บริดจ์)เพื่อรองรับการลงทุนของต่างประเทศในอนาคต โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย อีกทั้งจะผลักดันโครงการรถคันแรก ซึ่งจะช่วยเพิ่มการใช้รถในไทย ยิ่งทำให้ญี่ปุ่นสนใจเข้าลงทุนในไทย

นอกจากนี้ จะมีการทบทวนแผนพัฒนาผลิตไฟฟ้าระยะยาว(PDP)ที่เป็นงานแรกๆ หลังรัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าถ่านหินได้รับการต่อต้าน แต่ก๊าซธรรมชาติก็จะหมดลงในไม่ช้า รัฐบาลต้องตัดสินใจว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร ขณะเดียวกันไทยไม่ต้องการพึ่งพิงพลังงานจากต่างประเทศหรือลาวมากเกินไป ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงานได้ตั้งหน่วยงานใหม่มุ่งเน้นทำความเข้าใจชุมชนท้องถิ่นเหมือนเอ็นจีโอ

นายพิชัย กล่าวว่า การเสนอให้นำเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบางส่วนไปจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งและเลือกลงทุนสินทรัพย์อื่น ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีนั้น เป็นเพียงกรอบความคิด ซึ่งก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าธปท.สนับสนุนแนวคิดนี้ก่อนเลือกตั้ง ทั้งนี้ เห็นว่าจึนได้นำเงินกองทนสำรองฯไปลงทุนสินทรัพย์อื่นและได้ผลตอบแทนที่ดี ขณะที่การลงทุนในน้ำมันเพื่อให้ไทยมีแหล่งพลังงานที่สร้างความมั่นคงให้กับประเทศด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ