องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในกลุ่ม OECD ลดลงลงมาอยู่ที่ระดับ 0.2% ในไตรมาส 2 ปีนี้ จากไตรมาสแรกที่ 0.3% เนื่องจากการชะลอตัวของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรและสหภาพยุโรป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เศรษฐกิจในยูโรโซนและอียูชะลอตัวเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน โดยอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 0.2% เมื่อเปรียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 0.8%
ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศนั้น อัตราการขยายตัวของเยอรมนีชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 1.3% ส่วนอัตราการขยายตัวของฝรั่งเศสอยู่ที่ 0% ลดลงจากระดับ 0.9% ส่วนอังกฤษชะลอตัวมาอยู่ที่ 0.2% จากไตรมาสแรกที่ 0.5% ขณะที่จีดีพีอิตาลีและสหรัฐขยายตัว 0.3% เทียบกับ 0.1% ในไตรมาสแรก
สำหรับ ญี่ปุ่น ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากคลื่นสึนามิและวิกฤตนิวเคลียร์นั้น หดตัว 0.3% จากไตรมาสแรกที่ 0.9%
เมื่อเทียบเป็นรายปี จีดีพีของกลุ่ม OECD เพิ่มขึ้น 1.6% ในไตรมาส 2 ปีนี้ แต่ลดลงจากระดับ 2.4% ในไตรมาสแรก โดยในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 7 ประเทศนั้น เยอรมนีมีอัตราการขยายตัวสูงสุดที่ 2.7% และญี่ปุ่นที่ขยายตัวต่ำที่สุดที่ 0.9% ด้านยูโรโซนและอียูขยายตัว 1.7% ในระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน