มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่นลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa3 จากระดับ Aa2 โดยระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมียอดขาดดุลงบประมาณในระดับที่สูงมาก ซึ่งทำให้รัฐบาลเผชิญกับปัญหาหนี้สินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2552
แถลงการณ์ของมูดีส์ระบุว่า "มีปัจจัยมากมายที่ทำให้ญี่ปุ่นเผชิญกับความยากลำบากในการลดสัดส่วนหนี้สินต่อตัวเลขจีดีพี นอกจากนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมี.ค.และวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ ยังทำให้ปัญหาต่างๆในญี่ปุ่นย่ำแย่ลงไปอีก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มูดีส์ตัดสินใจลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นในครั้งนี้"
นอกจากนี้ มูดีส์เตือนว่า การที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนคณะรัฐบาลบ่อยครั้ง ยังได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจัดการกับปัญหาหนี้ โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งทันทีที่รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และคาดว่าจะได้ห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เริ่มงานภายในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม มูดีส์ยังคงให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นที่จะถือครองพันธบัตรของรัฐบาล ซึ่งสภาวะเช่นนี้จะช่วยให้รัฐบาลสามารถระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณได้
การประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นโดยมูดีส์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 และยังมีขึ้นหลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงสู่ระดับ AAA เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาในเดือนเม.ย. เอสแอนด์พีได้ประกาศปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่น เพราะเกรงว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มี.ค.จะส่งผลให้สถานะการคลังของญี่ปุ่นอ่อนแอลง