หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตี้ส์ นิวส์ รายงานว่า จีนนำเข้าสินแร่เหล็กจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล และอินเดีย เพิ่มขึ้น 75.4% ในครึ่งแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวลดลง 6.3% จาก 81.7% ในปีก่อน เนื่องจากจีนได้กระจายการนำเข้าแร่เหล็กจากแหล่งต่างๆ มากขึ้น
ณ วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้นำเข้าแร่เหล็กของจีนเพิ่มแหล่งนำเข้าจาก 37 ประเทศในปีก่อนเป็น 53 ประเทศในปีนี้
แอฟริกาใต้เป็นแหล่งนำเข้าแร่เหล็กรายใหญ่อันดับ 4 ของจีน รองจากออสเตรเลีย บราซิล และ อินเดีย โดยคิดเป็นสัดส่วน 5.3% ของยอดนำเข้าทั้งหมด
ส่วนราคาเฉลี่ยแร่เหล็กนำเข้านั้น ราคาเฉลี่ยของแร่เหล็กที่นำเข้าจากแอฟริกาใต้อยู่ที่ 183.2 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับแหล่งอื่นๆ ในขณะที่ราคาเฉลี่ยแร่เหล็กที่นำเข้าจากบราซิล ออสเตรเลีย และอินเดีย อยู่ที่ 174 ดอลลาร์/ตัน, 168 ดอลลาร์/ตัน และ 183.2 ดอลลาร์/ตัน ตามลำดับ
-- ยูนนาน ทิน ผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ที่สุดของจีนเมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิต เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเสนอขายหุ้นในวงจำกัด (Private Placement) มูลค่า 4.08 พันล้านหยวน
ก่อนหน้านี้ แถลงการณ์ของยูนนาน ทิน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เสิ่นเจิ้น ระบุว่า บริษัทมีแผนเสนอขายหุ้นในวงจำกัดเพื่อเพิ่มทุนในวงเงินสูงสุด 4.08 พันล้านหยวนเพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตทองแดงของบริษัท
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า วงเงิน 1.14 พันล้านหยวนที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในโครงการผลิตทองแดงจำนวน 100,000 ตันของบริษัท ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมด 2.567 พันล้านหยวนและคาดว่าจะทำกำไรสุทธิต่อปีที่ 15.42577 ล้านหยวน
-- สำนักข่าวดาวโจนส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของบาร์เคลย์ แคปปิตอลว่า ยอดนำเข้าแร่ทองแดงของจีนอาจจะชะลอตัวลงในครึ่งหลังปีนี้
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนนำเข้าแร่ทองแดงทั้งสิ้น 453,000 ตัน ลดลง 3% จากปีก่อน และ 24% จากเดือนก่อนหน้านั้น ซึ่งส่งสัญญาณถึงการนำเข้าที่ชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม บาร์เคลย์ แคปปิตอล ระบุในบทวิจัยว่า การร่อยหลอลงของปริมาณแร่ทองแดงและอุปทานที่ตึงตัวมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่ที่สะดุดลงนั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้การนำเข้าเพิ่มขึ้น หากอุปสงค์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป