จีนเผยยอดเกินดุลการค้าลดลงเหลือ 1.44% ของจีดีพีในช่วงครึ่งปีแรก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 24, 2011 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนลดลงเหลือ 1.44% ของจีดีพีในช่วงครึ่งปีแรก และมีแนวโน้มว่าสัดส่วนดังกล่าวจะลดลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี

นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สัดส่วนยอดเกินดุลการค้าต่อจีดีพีของจีน ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยลดลงจากระดับ 6.7% ในปี 2551 สู่ระดับ 2.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553

นายเฉินกล่าวว่า เพื่อส่งเสริมสมดุลการค้า จีนจะเดินหน้าขยายการนำเข้าเทคโนโลยีที่ทันสมัย ชิ้นส่วนอุปกรณ์สำคัญๆ และทรัพยากรที่จีนขาดแคลน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในเดือนกรกฎาคมจีนมียอดเกินดุลการค้า 3.148 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่งขึ้นอย่างมากจาก 2.227 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน และ 28.7 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ซึ่งนายเฉินกล่าวว่าเป็นเรื่องบังเอิญ โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกไปประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจใหม่อย่างบราซิลและรัสเซีย ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการที่ราคานำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง

ทางการจีนวิตกว่ายอดเกินดุลการค้ามหาศาลอาจเพิ่มสภาพคล่องในประเทศ กระตุ้นเงินเฟ้อ และกดดันให้เงินหยวนแข็งค่า

ทั้งนี้ เงินหยวนแข็งค่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.3896 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ เทียบกับระดับ 6.4167 หยวน/ดอลลาร์เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ