ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554(ต.ค.53-ก.ค.54) ยังอยู่ในระดับที่มั่นคง โดยมีปัจจัยผลักดันมาจากทิศทางการจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา และการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
"รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,492,482 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 132,525 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.7 โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลจาก 3 กรมจัดเก็บภาษี รวมทั้งการนำส่งรายได้จากรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการอื่นเพิ่มขึ้นมาก" นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการ สศค.กล่าว
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,840,941 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 359,350 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.3 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 348,459 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 50,243 ล้านบาท จากการชดใช้เงินคงคลัง เงินฝากคลังของเงินกู้ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 298,216 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 147,439 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 150,777 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ มีจำนวน 278,545 ล้านบาท
"ทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต และการจัดเก็บรายได้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการคลังมีความมั่นใจว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ 2554 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายมาก ซึ่งส่งผลให้ฐานะการคลังอยู่ในระดับที่มั่นคง" นายนริศ กล่าว