นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนก.ค.54 ว่า การส่งออกในเดือนนี้ขยายตัว 38.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 21,521 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าการส่งออกถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนการนำเข้า ขยายตัว 13.5% คิดเป็นมูลค่า 18,723 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 2,798 ล้านดอลลาร์
"ยอดส่งออกเดือนนี้ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์...การส่งออกยังโตต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ขณะที่การส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.) ขยายตัว 25.7% คิดเป็นมูลค่า 136,499 ล้านดอลลาร์ การนำเข้า ขยายตัว 26.1% คิดเป็นมูลค่า 130,254 ล้านดอลลาร์ ทำให้ 7 เดือนแรกปีนี้ไทยยังเกินดุลการค้า 6,245 ล้านดอลลาร์
นายยรรยง กล่าวว่า สาเหตุที่การส่งออกในเดือนก.ค.54 มีมูลค่าสูงและยังเติบโตต่อเนื่องนั้น มาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในตลาดโลกยังขยายตัวดี ส่งผลให้ความต้องการสินค้าไทยในตลาดโลกมีเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนกระแสเศรษฐกิจที่ซบเซาภายในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป(EU) และเชื่อว่าประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออกต่อไป
สำหรับการส่งออกในเดือน ก.ค.54 มีการขยายตัวในทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้ากลุ่มเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร ขยายตัว 53.5% สินค้าที่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูง เช่น ข้าว เพิ่มขึ้น 110.6%, ยางพารา เพิ่มขึ้น 69.3%, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 47.4%, สินค้าอาหาร เพิ่มขึ้น 30% ส่วนสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ขยายตัว 34.9% สินค้าที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูง เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่มขึ้นถึง 302% โดยในจำนวนนี้เป็นการเพิ่มขึ้นของทองคำถึง 3,919% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.53
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้สินค้าทองคำจะเป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ แต่ก็ไม่มีผลโดยตรงต่อการค้าระหว่างประเทศ เพราะทองคำไม่ถือเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจของไทย เพียงแต่นักลงทุนอาจจะชอบเล่นทำกำไรกับการซื้อขายทองคำ แต่อย่างไรก็ดี หากภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงผันผวนสูง การส่งออกทองคำก็น่าจะเติบโตได้ดี
ส่วนการส่งออกในรายตลาดนั้น พบว่าขยายตัวทุกกลุ่มตลาด โดยตลาดหลัก ส่งออกเพิ่มขึ้น 21.4% แยกเป็นสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น 35.5%, ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 23% และสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.1% ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดศักยภาพสูง เพิ่มขึ้น 47% โดยการส่งออกเติบโตสูงทั้งตลาดจีน, ฮ่องกง, อาเซียน, อินเดีย และไต้หวัน ส่วนตลาดศักยภาพรอง เพิ่มขึ้น 28.4%
นายยรรยง กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ไว้ที่ 15% ที่มูลค่า 224,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลใหม่คงไม่มีการปรับเป้าหมายการส่งออกใหม่ ซึ่งเป้าดังกล่าวเป็นเป้าหมายสำหรับการทำงาน หากทำได้ดีกว่าที่ตั้งไว้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี