นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติภายใต้การอนุมัติหลักการของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้ปรับลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลลง ด้วยการยกเว้นการนำส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของเบนซิน 95 ลงลิตรละ 8.02 บาท,เบนซิน 91 ลง ลิตรละ 7.17 บาท และดีเซลลงลิตรละ 3 บาท เป็นการชั่วคราว โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(27 ส.ค.) เวลา 06.00 น. แต่ยังไม่ระบุกรอบเวลาว่ามาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้จนถึงเมื่อใด อาจจะเป็น 6 เดือน แต่คงไม่เกิน 1 ปีแน่นอน
ทั้งนี้ จะส่งผลให้ในวันพรุ่งนี้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 จะลงมาอยู่ที่ลิตรละ 39.32 บาท น้ำมันเบนซิน 91 จะอยู่ที่ลิตรละ 34.77 บาท และดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 26.99 บาท
สำหรับน้ำมันดีเซลที่มีเพดานกำหนดให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จนถึงเดือนก.ย.นั้น ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ไปพิจารณาว่าหากราคาสูงขึ้นจนเกินกว่า 30 บาท/ลิตรก็ต้องดูความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ การลดการจัดเก็บเงินดังกล่าวจะทำให้รายได้ของกองทุนน้ำมันฯ จะหายไป 6,160 ล้านบาท/เดือน โดยกองทุนน้ำมันฯได้เตรียมเงินไว้สำหรับการชดเชยน้ำมันที่คงค้างในสถานีบริการประมาณ 3,000 ล้านบาท
รมว.พลังงาน กล่าวถึงการตรวจสต็อกน้ำมันที่คงค้างอยู่ในสถานีบริการน้ำมันว่า จะมีการปล่อยคาราวานเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสต็อกน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันนี้ จนถึง 06.00 น.ของวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับสถานีบริการน้ำมันและผู้ค้าน้ำมัน
ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันฯ ขณะนี้มีเงินสด 15,613 ล้านบาท มีหนี้สิน 14,617 ล้านบาท ทำให้เหลือเงินสดสุทธิ 808 ล้านบาท ส่วนเงินไหลเข้าปัจจุบันอยู่ที่เดือนละ 7,346 ล้านบาท มีเงินไหลออก 4,604 ล้านบาท กองทุนฯ มีฐานะเป็นบวกเดือนละ 2,742 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ จะดูแลราคาน้ำมันได้จนถึงเดือน ม.ค.55 ซึ่งในเวลานั้นอาจจะต้องมีการพิจารณากู้เงินหรือออกพันธบัตร
นายพิชัย กล่าวว่า ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถใช้ไปได้ถึงสิ้นปีนี้โดยที่ไม่ต้องกู้เงิน แต่คาดว่าจะเริ่มใช้เงินกู้ในกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาทในเดือนมกราคมปีหน้าเพื่อใช้ดูแลราคาน้ำมันได้ประมาณ 6 เดือน
ส่วนผลกระทบกับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ คงจะต้องมีการติดตามว่าจะมีผลต่อการใช้ลดลงอย่างไร โดยขอรอดู 1-2 สัปดาห์ก่อน แต่อยากให้ประชาชนใช้แก๊สโซฮอล์ต่อไป เพราะมาตรการดังกล่าวรัฐบาลต้องการช่วยกลุ่มเกษตรกรเป็นอันดับแรก
ส่วนเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมันนั้น ในที่ประชุมได้มีการหารือถึงผลกระทบทางด้านราคา ซึ่งกระทรวงการคลังมีความเห็นว่าให้ติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นอย่างไร แต่ยังไม่มีข้อสรุป นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้มีการรักษาส่วนต่างราคาเบนซินกับแก๊สโซฮอล์ด้วย โดยใช้กลไกภาษีสรรพสามิตเข้ามาดูแล กระทรวงการคลังเห็นว่าอาจกระทบต่อรายได้ของกระทรวงการคลัง
รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า หลังจากรัฐบาลประกาศยกเลิกการเรียกเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซลในวันพรุ่งนี้แล้ว คงจะได้หารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เช่น การหารือกับกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องการปรับลดราคาสินค้า
ส่วนรัฐบาลจะตัดสินใจกลับมาเรียกเก็บเงินฯ อีกครั้งเมื่อใดนั้นจะพิจารณาบนพื้นฐานของภาวะเศรษฐกิจ และนโยบายการเพิ่มรายได้ที่จะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็วในอนาคต
รมว.พลังงาน กล่าวว่า สำหรับเงินที่จะนำมาใช้ชดเชยราคาแก๊สหุงต้มและก๊าซธรรมชาติ หากสถานะของกองทุนน้ำมันฯ ไม่มีเงินเหลือแล้วจะใช้แนวทางการกู้เงินจากสถาบันการเงิน หรือการออกพันธบัตร ซึ่งจะได้มีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับแก๊สโซฮอล์ด้วย