นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษ ในปีงบประมาณ 54 ซึ่งมีอายุ 3 ปี ที่ 3.75% โดยพันธบัตรดังกล่าวจะมีเงื่อนไขพิเศษที่แตกต่างจากพันธบัตรออมทรัพย์คือ วงเงินซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท จากปกติ 10,000 บาท ระยะเวลาการจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ จากปกติ 5 วัน และ เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านเครื่อง ATM ของธนาคารกรุงไทย จากปกติที่มีการจำหน่ายผ่านเพียงเคาน์เตอร์ของสาขาธนาคารตัวแทนเท่านั้น
"กระทรวงการคลังได้มีการพัฒนาพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษขึ้นมา เพื่อเป็นแหล่งเงินออมที่มีคุณภาพที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึง พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายพันธบัตรผ่าน ATM เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนยิ่งขึ้น"นายธีระชัย กล่าว
สำหรับผู้มีสิทธิซื้อจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และ นิติบุคคลอื่น ที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังมีแผนจะออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณต่อๆไป และพัฒนาให้ประชาชนสามารถซื้อ-ขายพันธบัตรฯผ่านเครื่อง ATM และขยายช่องทางไปยังระบบอินเตอร์เน็ตและระบบไปรษณีย์ต่อไป
ด้านนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษดังกล่าวมีวงเงินทั้งสิ้น 5 หมื่นล้านบาท โดยจะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12-30 ก.ย.54 นี้ ซึ่งหากสิ้นสุดปีงบประมาณ 54 (30 ก.ย.)แล้วยังมีการจำหน่ายไม่หมดก็จะมีการตัดยอดส่วนที่เหลือทั้งหมด
ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 30 ก.ย. ทางสบน.จะใช้วงเงินขาดดุลในปีงบประมาณ 55 เข้ามารองรับการออกพันธบัตรส่วนนี้ ซึ่งยืนยันว่ามาตราการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการออม และกระตุ้นให้ประชาชนมีความต้องการที่จะฝากเงินมากขึ้น ซึ่งในระยะต่อไปทางสบน.จะมีการหารือกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดหน่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อ-ขายให้กับประชาชนมากขึ้น