(เพิ่มเติม) สศค. คาดเงินเฟ้อก.ย.ลดลง 0.5% หลังราคาน้ำมันลดลง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 30, 2011 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า การที่ราคาน้ำมันปรับลดลงจากมาตรการลดการเก็บเงินในส่วนของเบนซินและดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นการชั่วคราวจะมีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนก.ย.ลดลง 0.5%

นอกจากนี้ สศค.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะมีโอกาสเติบโตกว่าครึ่งปีแรก แม้เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัว โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3/54 จะโตกว่าในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 หลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี

นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลในการชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดลง 8.20 บาท/ลิตร เบนซิน 91 ลดลง 7.17 บาท/ลิตร และดีเซล ลดลง 3 บาท/ลิตร คาดว่าจะทำให้เงินเฟ้อในเดือน ก.ย.ลดลง 0.5% ทั้งนี้ยังไม่รวมมาตรการอื่นๆ ขณะที่ทั้งปี สศค.ประเมินว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 3.8% ซึ่งยังไม่รวมการลดราคาน้ำมันดังกล่าว

สำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/54 คาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาส 1/54 ที่ขยายตัวในอัตรา 3.2% และไตรมาส 2/54 ที่ขยายตัว 2.6% เนื่องจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาขยายตัว โดยเฉพาะในภาคการผลิตรถยนต์ที่ได้ชะลอตัวในไตรมาส 2/54 ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้อีกครั้งในเดือน ก.ย. ซึ่งเดิม สศค.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวในอัตรา 4-5%

"เราจะมีการปรับเป้าหมายอีกครั้งในเดือน ก.ย. ส่วนที่สภาพัฒน์มองเศรษฐกิจไทยปีนี้ลดลง อาจจะมีการประเมินที่แตกต่างกันจากไส้ใน ซึ่งต้องไปดูรายละเอียด" นายบุญชัย กล่าว

ส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค.54 มีการขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ เห็นได้จากมูลค่าการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 21.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการขยายตัวได้ดีในทุกตลาดส่งออก นอกจากนี้การลงทุนภาคเอกชนได้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่กลับมาขยายตัวเป็นบวก หลังติดลบติดต่อกัน 2 เดือน ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณขยายตัวในอัตราชะลอลง และภาคการผลิตที่สัญญาณชะลอลง

ด้านนายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจครึ่งปีหลัง คาดว่าเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก แม้มีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่รัฐบาลมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น

"ตอนนี้ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยมาจากการส่งออกที่อาจถูกกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเงินบาทที่แข็งค่า ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกไม่ growth ก็ต้องมากระตุ้นในประเทศแทน...เราตั้งใจทำงบสมดุล แต่เมื่อมีปัจจัยภายนอกมากดดันเราก็ต้องมากระตุ้นในประเทศไทย ซึ่งจะมีทั้งการลงทุนภาครัฐ ที่อาจให้ภาคเอกชนมาร่วมลงทุน PPP มีมาตรการภาษี ซึ่งทำให้คนมีเงินเหลือมาลงทุน นอกจากนี้เรายังมีหนี้สาธารณะต่ำ 41% ของจีดีพี" นายนริศ กล่าว

สำหรับการลดราคาน้ำมันในประเทศจากนโยบายของรัฐบาล คาดว่าจะทำให้เงินเฟ้อ Headline inflation ลดลงอยู่ต่ำกว่า 3.5% ภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อได้

อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจเห็นว่าไม่ได้มีเป้าหมายเพียงการดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาจากสภาวะแวดล้อมด้วย ทั้งเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาท หรือปัจจัยอื่นๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ