เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ เช่น สหรัฐ และยุโรป อาจจะบั่นทอนเสถีรภาพของกระแสเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายไอวาน อาซิส หัวหน้าสำนักงาน Office of Regional Economic Integration ของ ADB ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกยังคงสดใส แต่เขายังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างมากหรือแม้แต่หดตัวในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกด้วย
การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางกระแสเงินทุนต่างประเทศจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้าสู่ตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้
ทั้งนี้ เมื่อสภาวะเศรษฐกิจสดใส เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วยการหนุนสภาพคล่องในระบบให้สูงขึ้น แต่วัฎจักรดังกล่าวอาจ่อให้เกิดภาวะผันผวนในตลาดการเงินหากนักลงทุนต่างชาติถอนฐานการลงทุนออกไปอย่างฉับพลันเมื่อเกิดวิกฤตการเงินโลกแบบเดียวกับในปี 2551
รายงาน Asia Bond Monitor ของ ADB ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติถือครองพันธบัตรรัฐบาลของเกาหลีใต้มากที่สุดในช่วงเดือนมี.ค. 2553 และมี.ค. 2554 โดยสัดส่วนการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลโดยต่างชาตินั้นอยู่ที่ 10% ของยอดทั้งหมด ณ ช่วงสิ้นเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 3% จากระดับปีที่แล้ว