นายเจมส์ เอ็ม โคล รมช.กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อต้านการผูกขาด เพื่อขัดขวางไม่ให้บริษัท เอที แอนด์ ที เข้าซื้อกิจการบริษัท ที-โมบาย
นายโคลกล่าวว่า บริษัทเทคโนโลยีไร้สาย 4 รายของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเอที แอนด์ ที, ที-โมบาย, สปรินท์ และเวอริซอน ได้ให้บริการการเชื่อมต่อบริการสื่อสารไร้สายในสัดส่วนกว่า 90% ของการบริการทั้งหมดในสหรัฐ ซึ่งการควบรวมกิจการระหว่างเอที แอนด์ ที และที-โมบาย จะทำให้เกิดการรวมตัวกันของผู้แข่งขันรายใหญ่อันดับ 2 และ 4 ในตลาดไร้สาย และอาจจะขจัด ที-โมบาย ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญ ออกจากตลาดด้วย
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการของบริษัททั้งสองจะทำให้ผู้บริโภคหลายพันล้านคนต้องเผชิญกับราคาค่าบริการที่สูงขึ้น, ทางเลือกที่น้อยลง และอาจจะเผชิญกับคุณภาพของการบริการโทรศัพท์ไร้สายที่ต่ำลงด้วย
"เราจะขัดขวางการทำข้อตกลงนี้ เพื่อรักษาประสิทธิภาพด้านการแข่งขันในตลาด ซึ่งจะช่วยให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์จากราคาที่ปรับตัวลดลงและได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น" เขากล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอที แอนด์ ที เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ขณะที่ที-โมบายเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับ 4 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่เอทีแอนด์ทียื่นข้อเสนอเสนอซื้อกิจการที-โมบาย วงเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. บรรดาคู่แข่ง กลุ่มผู้บริโภค และองค์กรต่างๆ ก็ออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวกันอย่างมาก