คลังเสนอครม.ในก.ย.นี้เพิ่มรายได้ป.ตรีภาครัฐ 1.5หมื่นบาท/เดือนเริ่ม 1ม.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 1, 2011 12:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เผยมอบหมายกรมบัญชีกลางไปศึกษาพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลเรื่องการปรับรายได้ให้แก่บุคลากรภาครัฐ โดยเฉพาะที่ผู้จบปริญญาตรีควรมีรายได้ขั้นต่ำอย่างน้อย 15,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาราวกลางเดือนนี้ และคาดว่าจะมีผลตั้งแต่ต้นปี 55

หลักเกณฑ์ทั่วๆ ไป ที่กรมบัญชีกลางได้เสนอมาก็จะเป็นการกำหนดกลุ่มบุคลากรภาครัฐ ที่จะได้รับการปรับเงินเพิ่มในครั้งนี้ซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาของกระทรวงการคลัง และอัตราเงินเพิ่มที่จะได้รับตามเงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มฯ โดยแนวทางจะดำเนินการจ่ายเป็นเงินช่วยค่าครองชีพ (พ.ช.ค.) ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ทันทีตามอำนาจของกระทรวงการคลัง โดยการแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลัง

กลุ่มบุคลากรภาครัฐที่จะพิจารณาปรับเพิ่มรายได้ครั้งนี้จะครอบคลุม 5 กลุ่ม คือ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวที่จ้างจากเงินงบประมาณ พนักงานราชการ และทหารกองประจำการ ซึ่งตามฐานข้อมูลปัจจุบันมีบุคลากรภาครัฐที่มีเงินเดือนและค่าจ้างต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน จำนวน 649,323 คน แบ่งเป็นวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป จำนวน 346,365 คน ต่ำกว่าปริญญาตรี โดยรวมถึงทหารกองประจำการจำนวน 302,958 ราย โดยผู้ที่วุฒิปริญญาตรีขึ้นไปจะได้รับเงิน พ.ช.ค. เพิ่มรวมเงินเดือนเป็น 15,000 บาท สำหรับผู้ที่วุฒิต่ำกว่าปริญญาตรียังคงได้รับเงิน พ.ช.ค.1,500 บาท เช่นเดิม โดยจะขยายเพดานอัตราเงินที่ได้รับเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้กลุ่มที่ได้รับเงินเดือนค่าจ้างและทหารกองประจำการที่ได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงประจำไม่ถึง 9,000 บาท ก็จะได้รับเงิน พ.ช.ค. เพิ่มรวมกันให้ได้รับเป็น 9,000 บาท ด้วย โดยจะใช้เงินงบประมาณ ประมาณปีละ 24,533 ล้านบาท ซึ่งได้มีการศึกษาผลกระทบด้านต่าง ๆ แล้วไม่เป็นปัญหา

“การปรับรายได้ดังกล่าวกระทรวงการคลังได้เสนอแนวทางโดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้บุคลากรภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพและเป็นการช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม 2555 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่บุคลากรภาครัฐ สำหรับกลุ่มอื่น ๆ ได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป" นายวิรุฬ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ