นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตนเองได้มอบนโยบายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ศึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ รวมถึงการปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาว หรือ พีดีพี 20(ปี 2553-2573) ใหม่ โดยดูเรื่องเชื้อเพลิงทุกด้านให้เหมาะสม และให้เกิดการยอมรับจากประชาชน
โดยการปรับโครงสร้างพลังงานในอนาคตจะต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงก่อนข้อตกลงประชาคมอาเซียน(เออีซี) จะมีผลบังคับใช้ในปี 2558 ซึ่งจะเป็นรูปแบบการทยอยปรับขึ้นราคา คาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่ต้นปี 2555 หลังจากรัฐบาลได้ดำเนินการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ทั้งการขึ้นเงินเดือนเป็น 15,000 บาท การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท การรับจำนำข้าว เป็นต้น
ส่วนนโยบายเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) นั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลจะดูแลในภาคครัวเรือนผู้ที่มีรายได้น้อยหลังทยอยปรับขึ้นราคาพลังงาน ด้วยการออกคูปองมาดูแลเป็นรายเดือน แต่จะเป็นวงเงินเท่าไรอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งคูปองดังกล่าวจะเป็นคนละส่วนกับบัตรเครดิตพลังงานที่จะเน้นดูแลรถสาธารณะเป็นหลักก่อน
"แม้รัฐบาลจะมีแผนลอยตัวเชื้อเพลิงทุกประเภทในอนาคต แต่จะมีคูปองออกมาดุแลภาคครัวเรือนที่ยากจน ซึ่งในส่วนก๊าซแอลพีจีจะขยับขึ้น จะทยอย เช่น อาจจะขึ้น 0.50 บาท หรือ 1-3 บาทต่อกิโลกรัม โดยเรื่องนี้ขอศึกษาภาพรวมก่อน" นายพิชัย กล่าว