นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ มอบนโยบายให้กับข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยขอให้ยึดกรอบการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ภาคธุรกิจภายในประเทศมีความเข้มแข็ง มีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยภาครัฐต้องให้บริการอย่างมืออาชีพ เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการทำธุรกิจ และให้อยู่ในระดับ Top Ten ให้ได้ จากปัจจุบันที่ไทยอยู่ในลำดับที่ 19 จากการสำรวจของ World Bank
สำหรับแนวทางที่จะดำเนินการไปสู่เป้าหมายดังกล่าว จะต้องขยายบริการให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ โดยลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและลดระยะเวลาการให้บริการ ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการออนไลน์ของภาครัฐเพื่อการเป็น e-Government ขณะเดียวกัน จะต้องขยายการให้บริการไปสู่ภูมิภาค โดยมุ่งเน้นขยายการให้บริการสู่ทุกพื้นที่เศรษฐกิจ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจของไทย โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็ก(SMEs) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่รัฐบาลต้องการให้การสนับสนุน โดยสร้างมาตรฐานคุณภาพธุรกิจและส่งเสริมนวัตกรรมในการบริหารจัดการธุรกิจ
"ต้องรู้เขา รู้เรา ต้องสร้างเครือข่าย เชื่อมโยงธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ให้ความสำคัญสมาคมการค้าและการรวมกลุ่มธุรกิจ เพื่อทำให้ธุรกิจไทยมีความแข็งแกร่งจากภายในก่อนที่จะออกไปสู่ตลาด AEC" นายศิริวัฒน์กล่าว
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือจะต้องสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ โดยมุ่งส่งเสริมพัฒนาให้นิติบุคคลมีความรู้ความเข้าใจปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่การทำงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะต้องกำกับดูแลตรวจติดตามให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานบัญชี และสร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการประกอบธุรกิจ
ขณะเดียวกัน จะต้องสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจของคนไทยและธุรกิจของคนต่างชาติ โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และปกป้องธุรกิจของคนไทยไม่ให้ได้รับผลกระทบจากธุรกิจของต่างชาติ