รมว.คลัง แจงแนวคิดกองทุนมั่งคั่งดึงเงินกลับมาพัฒนาเอเชียแทนให้สหรัฐกู้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 2, 2011 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คถึงแนวคิดเรื่องกองทุนความมั่งคั่งที่ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ไปศึกษาสว่า ไม่มีการแตะต้องคลังหลวง และไม่มีการแตะต้องเงินสำรองในส่วนที่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้หนุนหลังเงินบาท และไม่มีการแตะต้องทองคำที่ได้รับบริจาค

แนวคิดดังกล่าวคือการนำเงินในส่วนที่ปัจจุบัน ธปท.นำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เปลี่ยนไปลงทุนในโครงการในภูมิภาคแทน เนื่องจากเห็นว่าการนำทุนสำรองฯ ไปทุ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ขณะนี้สหรัฐก็มีหนี้ล้น และถูกสถาบันจัดอันดับลดเครดิต รวมทั้งสภาคองเกรสก็ยังถกเถียงกันไม่จบว่าจะแก้ปัญหาวิกฤตสถานะการคลังของสหรัฐก้นอย่างไร และธนาคารกลางของสหรัฐก็มีทีท่าจะพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาอีกไม่รู้เท่าไหร่ การลงทุนแบบนี้ไม่ควรทำมากเกินไป

แต่หากเราเปลี่ยนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไปเป็นลงทุนในโครงการที่ดีๆ ในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนในลาว โรงงานไฟฟ้าที่เขมร ท่าเรือในเวียดนาม โดยเฉพาะหสกเน้นโครงการของรัฐบาลที่มี World Bank หรือ Asian Development Bank เข้ามาร่วมจัดการด้วยนั้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศของเรามากกว่า เท่ากับเราลงทุนในตัวเองน่าจะดีกว่าเอาเงินไปให้สหรัฐกู้อย่างเดียว

รมว.คลัง ระบุว่า หากสามารถใช้วิธีให้ ธปท.เป็นผู้ลงทุน และสินทรัพย์นั้นยังเป็นของ ธปท. เพียงแต่แยกบัญชีย่อยออกมา และหากมีขาดทุนรัฐบาลก็พร้อมจะรับผิดชอบ หากมีกำไรก็ตกเป็นของรัฐบาล อีกทั้งเปิดให้ ธปท.สามารถคิดค่าใช้จ่ายได้เต็มที่ ก็น่าจะเป็นธรรมทั้งแก่รัฐบาลและแก่ธปท.

ดังนั้น ในวันนี้จึงได้ขอให้ World Bank ช่วยไปศึกษาว่าวิธีการนี้ว่าจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และควรมีข้อระวังอย่างใด

"หลักคิดของผม คือ เงินออมของเอเซีย ควรจะใช้ทำประโยชน์ให้แก่เอเซียให้มากๆ และไม่จำเป็นต้องเอาไปให้สหรัฐหรือยุโรปกู้เสียทั้งหมด เงินที่ลงทุนในเอเซีย ย่อมทำให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยมากกว่าครับ...ระหว่างทางเลือกที่เอาเงินไปให้สหรัฐและยุโรปกู้อย่างเดียว เทียบกับแบ่งออกมาบางส่วนเพื่อพัฒนาเอเซีย ผมว่าทางหลังน่าจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทยมากกว่า ประเทศเอเซียวันนี้อาจจะไม่ร่ำรวยเท่า แต่ก็เป็นประเทศที่ตั้งใจทำงาน ตั้งใจพัฒนาประเทศกัน และถ้าเราไม่ให้ความสำคัญแก่ภูมิภาค เราจะอยู่กันได้อย่างไร ถ้าคอยเอาเงินไปให้แต่คนรวยเขากู้ เมื่อไรเราเองจะร่ำรวยกับเขาบ้าง" รมว.คลัง ระบุ

ทั้งนี้ หากถามว่าการลงทุนในโครงการในเอเซียจะมีความเสี่ยงมากกว่าการให้กู้แก่สหรัฐหรือยุโรปหรือไม่ คงต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าอยู่บ้าง เพราะประเทศเอเซียไม่ร่ำรวยเท่าสหรัฐและยุโรป เงินที่จะนำไปลงทุนในเอเซีย จึงควรจะเป็นส่วนที่เหลือจากที่จำเป็นต้องใช้หนุนการออกธนบัตร และไม่ใช่เงินสำรองส่วนใหญ่ แต่เรื่องความเสี่ยงนั้นสามารถบริหารจัดการได้ครับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ