ผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นบ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันกว่า 8 ใน 10 คนเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่ หลังจากตัวเลขจ้างงานไม่มีการขยายตัวในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการสร้างงานมากกว่าเรื่องอื่นๆ
ผลการสำรวจมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรหยุดชะงักในเดือนส.ค. โดยไม่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 75,000 - 80,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนส.ค.ยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 9.1%
เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยในไตรมาสแรกปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 1.9% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 4 ปีที่แล้วที่ระดับ 3.1% ส่วนจีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 1% ซึ่งอัตราการขยายตัวที่เชื่องช้านี้ยังไม่สามารถทำให้อัตราว่างงานลดลงได้
ผลสำรวจของซีเอ็นเอ็นระบุว่า 2 ใน 3 ของชาวอเมริกันที่ตอบรับการสำรวจกล่าวว่า ประธานาธิบดีโอบามาควรจะมุ่งเน้นในมาตรการสร้างงานอย่างเร่งด่วน แม้จะส่งผลกระทบต่อแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลก็ตาม โดยผลการสำรวจยังบ่งชี้ว่า เกือบครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันมองว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณมีความสำคัญมากเท่ากับการสร้างงาน ขณะที่ 83% ของชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรคเดโมแครทต้องการให้โอบามามุ่งเน้นในเรื่องการสร้างงานมากกว่าเรื่องอื่นๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีโอบามามีกำหนดจะประกาศแผนกระตุ้นการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในการประชุมสภาครองเกรสในวันที่ 7 ก.ย. นอกจากนี้ โอบามายังเรียกร้องให้สภาคองเกรสยืดกำหนดเวลาหมดอายุของร่างกฎหมายด้านการคมนาคมออกไปเป็นเดือนหน้า เพื่อกระตุ้นการจ้างงานที่จำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจ