นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง กล่าวยืนยันว่า แนวคิดการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ จะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาข้อดีเข้อเสีย และปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการอย่างระมัดระวัง หากการบริหารกองทุนดังกล่าวมีผลกำไรให้ส่งเป็นรายได้เข้าคลัง แต่หากประสบผลขาดทุนรัฐบาลพร้อมตั้งงบประมาณเพื่อชดใช้ผลขาดทุนดังกล่าวให้ ซึ่งยอมรับว่า การบริหารกองทุนฯมีกระบวนการบริหารความเสี่ยง และการลงทุนทุกรูปแบบย่อมมีผลกำไรและขาดทุน
"การตั้งกองทุนดังกล่าวจะให้ทุกคนเห็นด้วยหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่ผมจะพยายามพิจารณาอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ" รมว.คลัง กล่าว
ทั้งนี้การจัดตั้งกองทุนฯ ดังกล่าว ธปท. สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ทั้งในแง่ค่าใช้จ่ายภาระดอกเบี้ย เนื่องจากธปท.จะต้องมีการออกตราสารหนี้เพื่อดูดซับสภาพคล่อง ซึ่งถือเป็นภาระของบัญชีย่อย นอกจากนียังมีค่าใช้จ่ายของคณะทำงาน การบริหารจัดการในการดูแลกองทุนซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายประจำปี
พร้อมกับระบุว่า จะไม่มีการแตะต้องเงินบริจาคและทองคำของหลวงตามหาบัวอย่างเด็ดขาด ซึ่งเงินบริจาคดังกล่าวมีการจัดแยกอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบได้