กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 5.9% จากเดือนก.ค. แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.218.50 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายเงินเยนและเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแข็งค่าของเงินเยน
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นซึ่งมีมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีนนั้น ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งนอกเหนือจากการเข้าแทรกแซงตลาดแล้ว ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศยังขยายตัวขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐและยุโรปปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นประกอบไปด้วยหลักทรัพย์และเงินฝากในรูปสกุลเงินต่างประเทศ ทองคำ และสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
กระทรวงการคลังเปิดเผยในช่วงก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ขายสกุลเงินต่างประเทศในระหว่างวันที่ 28 ก.ค.จนถึง 29 ก.ค.เป็นวงเงินทั้งสิ้น 4.51290 แสนล้านเยน (5.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนรายละเอียดที่ว่าบีโอเจได้เข้าแทรกแซงตลาดตลาดปริวรรตเงินตรากี่ครั้ง และเข้าซื้อสกุลเงินของประเทศใดบ้างนั้น จะมีการเปิดเผยในเดือนพ.ย.