สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าเยอรมนีจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้ในยูโรโซนมากขึ้น หลังจากศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีมีคำสั่งยกฟ้องรัฐบาลเยอรมนีในข้อหาจ่ายเงินสมทบมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศต่างๆในยูโรโซน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากที่นายชาร์ล อีแวน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ได้ออกมาสนับสนุนให้คณะกรรมการเฟดใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นการสร้างงาน
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4099 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3998 ดอลลร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5988 จากระดับ 1.5941 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.41% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.270 เยน จากระดับ 77.590 เยน และดิ่งลง 0.43% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8579 ฟรังค์ จากระดับ 0.8616 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.51% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0653 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0495 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.90% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8310 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8236 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีประกาศยกฟ้องคดีที่รัฐบาลเยอรมนีถูกฟ้องกรณีจ่ายเงินสมทบมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซและประเทศอื่นๆในยูโรโซน นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังเห็นชอบที่จะไม่ขัดขวางการจ่ายเงินสมทบของรัฐบาลด้วย ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นเยอรมนีจะสามารถให้ความช่วยประเทศยูโรโซนที่กำลังประสบปัญหาหนี้ได้มากขึ้น
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงหลังจากนายอีแวน ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโกได้สนับสนุนให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการสร้างงาน หลังจากที่ตัวเลขจ้างงานไม่มีการขยายตัวในเดือนส.ค. แต่การผ่อนคลายนโยบายการเงินจะส่งผลกดดันมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์และทำให้ดอลลาร์ขาดแรงจูงใจสำหรับนักลงทุน
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่านายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีจะชะลอการใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินเนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงด้วย
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 2 ปีนี้ จากไตรมาสแรกที่ระดับ 0.9% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าออสเตรเลียสามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แม้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุและน้ำท่วม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในปีนี้ก็ตาม
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ย.ของสหรัฐจะอยู่ที่ 405,000 ราย ลดลงจากระดับ 409,000 รายของสัปดาห์ก่อนหน้านั้น และคาดว่าสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ค. หลังเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย.