ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจในเขตต่างๆ รวมถึงเซนต์หลุยส์ มินเนอาโพลิส แคสซัส ซิตี้ ดัลลัส และซานฟรานซิสโก มีการขยายตัวปานกลางเพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่สูงขึ้น แต่เศรษฐกิจในเขตอื่นๆ รวมถึงนิวยอร์ก ยังคงซบเซาลง
รายงานของเฟดระบุว่า ภาวะผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาและความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เฟดในหลายเขตต้องปรับลดการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและวิตกกังลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นในเกือบจะทุกเขต แต่เฟดระบุว่า ยอดค้าปลีกสินค้านอกกลุ่มยานยนต์ยังคงชะลอตัวลงในหลายเขต และสภาวะในอุตสาหกรมการผลิตยังคงผันผวนทั่วประเทศ
ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์ยังคงซบเซาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางเขตที่รายงานว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มกระเตื้องขึ้น ขณะที่สภาวะในตลาดแรงงานยังคงทรงตัว แต่มีบางเขตรายงานว่าการจ้างงานขยายตัวปานกลาง
นอกจากนี้รายงานของเฟดระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในเขตส่วนใหญ่เริ่มลดน้อยลง แต่ก็มีบางเขตที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนราคาสินค้าที่ใช้ในการผลิต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงาน Beige Book ครั้งล่าสุดเกิดจากการรวบรวมข้อมูลสภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 สาขาในระหว่างกลางเดือนก.ค.จนถึงวันที่ 26 ส.ค.
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง