บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินเชื่อ รายงานว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นในเดือนส.ค. ลดลง 3.5% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1,026 แห่ง ทำสถิติปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขหนี้สินของบริษัทล้มละลายพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ เนื่องจากมีบริษัทขนาดใหญ่ล้มละลาย
รายงานระบุว่า ตัวเลขหนี้สินของบริษัทที่ล้มละลายในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นรุนแรงถึง 320.3% สู่ระดับ 7.9405 แสนล้านเยน เนื่องจากบริษัท 2 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อะกุระ โบคุโจ เจ้าของเชนฟาร์มปศุสัตว์ ได้ประสบภาวะล้มละลาย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเนื้อวัวหลังจากเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกุชิม่า ซึ่งหนี้สินรวมของสองบริษัทคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80% ของมูลค่าหนี้สินทั้งหมดของบริษัทที่ล้มละลายในเดือนส.ค.
ในจำนวนบริษัทที่ล้มละลายทั้งหมดนั้น มีอยู่ 72 บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในเดือนมี.ค. ซึ่งส่งผลให้บริษัทล้มละลายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเป็น 318 แห่ง สูงกว่าจำนวนบริษัทล้มละลาย 300 แห่งที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมืองฮันชินเมื่อปี 2538
นอกจากนี้ ในบรรดาอุตสาหกรรม 10 ประเภทที่ได้รับการสำรวจในครั้งนี้นั้น มีอุตสาหกรรม 6 ประเภทที่มีจำนวนบริษัทลมละลายลดลง ซึ่งได้แก่ ค้าส่ง การขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การผลิต และการก่อสร้าง
สำนักข่าวเกียวโดรายงาน โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ชคาดว่า จำนวนบริษัทล้มละลายอาจจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงซบเซา อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในเดือนมี.ค. และเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก