รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ จี7 จะประชุมร่วมกันเป็นเวลา 2 วันที่เมืองมาร์เซย ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งการประชุมวันแรกจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะคลายความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและวิกฤตหนี้สินในยูโรโซน
โดยบรรดาผู้นำทางการเงินจากสหรัฐ แคนาดา ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษ จะหารือเรื่องมาตรการที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิรูปโครงสร้างนโยบายการเงินและระบบการคลัง เพื่อยกระดับการบริหารจัดการในกลุ่มจี7
ประเด็นหลักของการประชุมครั้งนี้คาดว่า จะเป็นเรื่องการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักในเดือนสิงหาคมอันเนื่องมาจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสที่ซบเซา และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวัง
นอกจากนั้นกลุ่มจี7 มีแนวโน้มว่า จะให้ความสำคัญเรื่องวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินภายหลังการล่มสลายของเลห์แมน บราเธอร์ส
โดยบรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของ "กฏเหล็ก" คือการใช้มาตรการต่างๆในการควบคุมการใช้จ่ายภาครัฐและลดตัวเลขขาดดุล ให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการเงินของสหภาพยุโรป (อียู)
นอกจากนั้นจี7 มีแนวโน้มว่า จะพยายามคลายความกังวลในตลาดและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยการใช้มาตรการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและยุติความผันผวนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เกรงว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นเพียงการพูดจาปากเปล่า ซึ่งอาจยิ่งสร้างความตึงเครียดให้กับตลาดโลก
"การประชุมลักษณะนี้มักไม่ค่อยได้อะไรเป็นรูปธรรม เป็นแค่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่กำลังกังวลเรื่องเศรษฐกิจและการเงิน สุดท้ายก็จะไม่มีการประกาศใช้มาตรการใดอย่างเฉพาะเจาะจง" นายฌอง-หลุยส์ มัวเรอร์ นักวิเคราะห์จาก BGC Aurel กล่าว "การประชุมแบบนี้ค่อนข้างกำกวมและแถลงการณ์สุดท้ายมักไม่มีความชัดเจน"
บทวิเคราะห์โดย อูนิสซี โซเนีย และ จาง ซิน จากสำนักข่าวซินหัว