นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศขณะนี้ เพราะกระทรวงพลังงงานจะไม่ดำเนินนโยบายที่สวนกระแสความรู้สึกของประชาชน แต่การพิจารณาสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อาจจะถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นไปได้ในอนาคต
เนื่องจากในอีก 9 ปีข้างหน้า ประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่จะให้อัตราเศรษฐกิจเติบโต(GDP) มีมูลค่ารวม 10 ล้านล้านบาท เพิ่มไปเป็น 20 ล้านล้านบาท ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีปริมาณไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอกับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นเพราะไทยใช้พลังงาน 1.2-1.3% เมื่อเทียบกับ GDP ที่โตขึ้น 1% สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วที่ GDP และการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
รมว.พลังงาน กล่าวว่า การสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่นับจากนี้ไป จะมีการทบทวนปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าในระยะยาวของประเทศไทย(แผน PDP 2010) จะเน้นไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดเช่นเดียวกับที่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างเยอรมันนี และญี่ปุ่นได้พัฒนาขึ้นมา แต่ทั้งนี้ต้องลบภาพเดิมๆ ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะออกไปก่อน
นอกจากนี้ ต้องการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันประหยัดและอนุรักษ์พลังงาน ส่วนการสนับสนุนกิจการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)นั้น จะสนับสนุนบริษัท กฟผ.อินเตอร์นั่นแนล จำกัด ให้ออกไปทำธุรกิจพลังงานในตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างดีได้ผลตอบแทน 15-17% โดยกระทรวงพลังงานอยากเห็นบริษัทลูกของ กฟผ. เติบโตเช่นเดียวกับ บมจ.ปตท.(PTT) ที่ออกไปทำธุรกิจพลังงานในต่างประเทศ
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะแปรรูป กฟผ. แต่ถ้าจะมีการแปรรูปก็จะอยู่บนหลักคิดที่เพิ่มมูลค่าของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพิ่มการเติบโตของประเทศมากกว่า